วงเสวนาชี้ ยุคโซเชียลประชาชนเข้าถึง กมธ.มากขึ้น

สมาคมนักข่าวฯ 1 ธ.ค.- พรรณิการ์ เชื่อ รัฐสภาเรียกความเชื่อมั่นคืนจากประชาชนได้ หาก กมธ.35 คณะร่วมกันทำงานอย่างโปรงใส ขณะที่กษิต มอง 35 คณะ  เป็นการแบ่งเค้กมากกว่าตอบสนองประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. วันนี้ (1ธ.ค.)สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จัดงานเสวนา  “คณะกรรมาธิการรัฐสภา ประชาชนหวังพึ่งได้แค่ไหน?” ซึ่งมีนางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ร่วมเสวนา

นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า สนใจการเมืองมาโดยตลอด แต่ไม่เคยมีการเมืองยุคใดที่กรรมาธิการมีบทบาทเหมือนกับในยุคปัจจุบัน คำถามคือ ทำไมกรรมาธิการคือกลไกที่ประชาชนให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่า การเมืองยุคนี้ รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ทำให้ความนิยมในตัวฝ่ายค้านและรัฐบาลไม่แตกต่างกัน ประชาชนที่อยากติดตามการทำงานของฝ่ายค้านก็จะติดตามจากกรรมาธิการฯ ในขณะที่รัฐสภาและ ครม.เป็นพื้นที่แสดงผลงานของรัฐบาล ขณะที่คณะกรรมาธิการต่างๆพยายามที่จะทำอะไรแปลกใหม่มากขึ้น อย่างที่ตนทำงานอยู่ในคณะกรรมาธิการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมฯ ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่โซเชียลมีเดียกำลังเติบโต และในต่างประเทศก็มีการถ่ายทอดการประชุมคณะกรรมาธิการต่างๆ จึงได้คิดกันว่า จะใช้โซเชียลมีเดียกับการประชุมกรรมาธิการฯ เมื่อมีประเด็นที่น่าสนใจก็จะมีการไลฟ์สดให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจนเพื่อความโปร่งใสกับทุกฝ่าย โดยถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่คณะกรรมาธิการมีการไลฟ์สดผ่านเพจเฟสบุคของคณะกรรมาธิการเอง และมีคนดูประมาณ 2-3 หมื่นคน แต่สุดท้ายก็ต้องลบไลฟ์สดเฟสบุคครั้งแรกออก เพราะในการประชุมวันดังกล่าวมีการให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นข้อมูลลับทางคดี ทำให้ต้องลบคลิปออก 


นางสาวพรรณิการ์ ยังยืนยันว่า แม้คณะกรรมาธิการฯจะเข้าไปข้องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อคดีต่างๆได้ เนื่องจากมีหลายคดีที่คณะกรรมาธิการฯเรียกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวเชื่อว่า 10 ปีที่ผ่านมา สังคมเกิดความขัดแย้งสูง ความวุ่นวายทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา เมื่อมองกลับมาที่การทำงานของกรรมาธิการฯ แม้จะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่กรรมาธิการฯ 35 คณะสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ตรงจุด หากทุกคณะทำงานอย่างขยันขันแข็ง โปร่งใส่ และหากทำให้ประชาชนเห็นว่า นักการเมืองต่างพรรคทำงานร่วมกันในคณะกรรมาธิการได้ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน จะเกิดความเชื่อมั่นต่อรัฐสภา และเชื่อมั่นว่า ระบอบตัวแทนจะคือทางออกของประเทศ ประชาชนจะไม่หันไปหาเส้นทางอื่น ทั้งการรัฐประหาร การปราบปราม การประท้วงตามท้องถนน การนองเลือด ดังนั้น หากทำให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐสภาได้ การประท้วงตามท้องถนนก็จะไม่เกิดขึ้น 

ด้าน นายกษิต กล่าวว่า การเป็นนักการเมือง ต้องเปลี่ยนรูปโฉมของประเทศให้ดีขึ้น และขณะนี้ คนเข้าถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯมากขึ้นเนื่องจากมีโซเชียลมีเดีย แต่คนก็ยังไม่ได้สนใจคณะกรรมาธิการทุกคณะ เนื่องจากคนยังสนใจที่ตัวนักการเมืองเป็นรายคนมากกว่า นอกจากนี้ ยังมองว่า การมีคณะกรรมาธิการถึง 35 คณะนั้นมากเกินไป ดูเหมือนเป็นการแบ่งเค้กมากกว่าการตอบสนองความต้องการของประเทศ มีแค่ 20 คณะก็เพียงพอ นอกจากนี้ ยังมีคนที่หากินกับคณะกรรมาธิการ หน้าเดิมๆไปรับตำแหน่งต่างๆ องค์ความรู้ขีดความสามารถของคณะกรรมาธิการฯที่ไม่ใช่ ส.ส.นั้น ตนมองว่าไม่มีประโยชน์ บางครั้งก็ได้ไปต่างประเทศด้วย เป็นการหาช่องทางหากิน จึงถือเป็นการทุจริตอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่า การประชุมคณะกรรมาธิการส่วนใหญ่ที่ผ่านมา ข้าราชการประจำตัวเล็กๆกลายเป็นกระสอบทราย เพราะรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดีไม่ยอมมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ


“ข้าราชการประจำ สัปดาห์หนึ่งก็เหงื่อซกไปหากรรมาธิการ ไปให้ ส.ส.ได้ระบายอารมณ์ รัฐมนตรีทุกยุคทุกสมัยไม่กล้ามากรรมาธิการ เพราะเป็นเวทียุทธหัตถี ทั้งที่อยากให้เวทีกรรมาธิการเป็นเวทีศิวิไลย์ ข้อมูลหรือจีทูจีกับประเทศที่เป็นเผด็จการต้องเปิดเผยกับประชาชน ในกรรมาธิการเป็นสถาบันอันสูงส่ง ข้าราชการจะมาบอกว่าเป็นความลับไม่ได้ ในคณะกรรมาธิการ ขออย่าให้ลิ่วล้อมาอยู่ด้วย เอาแค่ ส.ส.ก็พอ ยอมรับว่า การที่พรรคอนาคตใหม่เข้ามา ทำให้รัฐสภาโดดเด่น เพราะสมัยก่อนไม่มีการมาฟาดกันในกรรมาธิการเหมือนสมัยนี้ ท่านทั้งหลายเหล่านี้กล้าพูด ดังนั้น ก็ขอกระตุ้นกรรมาธิการอื่นๆพูดกับประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้” นายกษิต กล่าว

ขณะที่นางสาวกัลยา เห็นด้วยกับนางสาวพรรณิการณ์ ที่มองว่า เวทีกรรมาธิการเป็นพื้นที่แสดงผลงานของฝ่ายค้าน แต่ต้องยอมรับว่า กรรมาธิการยุคเดิมมีลักษณะในแบบที่นายกษิตกล่าว ตนจึงได้ปรับการทำงานของคณะกรรมาธิการการสื่อสารฯเป็นไปในเชิงรุก ส.ส.ทุกคนในกรรมาธิการฯถอดหัวโขนความเป็นพรรคออกและร่วมกันทำงาน เพื่อให้น่าเชื่อถือและประชาชนพึ่งพาได้ รวมทั้งไม่สร้างความอึดอัดกับผู้ที่จะมาชี้แจง ไม่ยอมให้ผู้ที่จะมาชี้แจงกลายเป็นกระสอบทราย ขณะที่การแต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา เลขาคณะกรรมาธิการ ยอมรับว่า เป็นไปตามที่นายกษิตกล่าว ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเพื่อทำนามบัตร ดังนั้น คณะกรรมาธิการการสื่อสารฯจะขอดูประวัติของบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งก่อน โดยต้องมีความสามารถตรงตามวัตถุประสงค์ของคณะกรรมาธิการด้วย

อย่างไรก็ตาม จากกำหนดการของงานเสวนา มีชื่อของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ร่วมเสวนาด้วย แต่ก็ไม่พบนายสิระแต่อย่างใด เนื่องจากระหว่างการเสวนา ผู้จัดงานแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อนายสิระได้ และไม่ทราบว่า นายสิระมาจะร่วมงานเสวนาด้วยหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย