รัฐสภา 28 พ.ย.- “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” แจงสภาปมปัญหาความขัดแย้งในกมธ.ปปช. เพราะ “พล.อ.ประยุทธ์ – พล.อ.ประวิตร” ไม่มาชี้แจงปมถวายสัตย์ สั่งสอบ “ไพบูลย์”ก่อนเป็นกมธ.ใหม่ ชี้เป็นแค่ลูกแมว ไม่รู้จักพ่อเสือ ใครจะเข้ามาอีกก็ลองดู ด้าน”ชวน” บอกจะช่วยดูให้กมธ.ทำงานราบรื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ หลังจากการหารือกว่า 1 ชั่วโมง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เริ่มเข้าสู่วาระการประชุม โดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้าทำหน้าที่กรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แทนนายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ที่ลาออกจากคณะกรรมาธิการฯ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงสาเหตุความวุ่นวายของคณะกรรมาธิการ ที่มีต้นเหตุเพราะมีบางฝ่ายพยายามทำตัวเหนือรัฐธรรมนูญ ตนและคณะกรรมาธิการจึงเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 109 แต่กลับไม่ยอมมาชี้แจง จึงเป็นเหตุให้พรรคพลังประชารัฐ เปลี่ยนแปลงกรรมาธิการถึง 2 คน และเกิดความวุ่นวายมาตลอดจนถึงเมื่อวานนี้
“ผมในฐานะประธานกรรมาธิการฯ มองว่าเป็นเรื่องภายใน และพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวผมเองทั้งสิ้น และทราบข่าวว่านายดล เหตระกูล โดนบีบให้ลาออก ในส่วนคนใหม่ที่จะมาแทน นั้น ผมจึงสั่งให้อนุกรรมาธิการ ตรวจสอบประวัติก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่เข้ามา 2 คนก็มีปัญหา และ ขอฝากถึงบุคคลที่จะเข้ามาในกรรมาธิการฯ ด้วยว่า เป็นแค่ลูกแมว ไม่รู้จักพ่อเสือ ใครจะเข้ามาอีกก็ลองดู” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขอให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทบทวนการวินิจฉัยกรณีลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 หลังจากฝ่ายค้านชนะการลงมติ แต่กลับวินิจฉัยให้นับและลงคะแนนใหม่โดยเปิดเผยเมื่อคืนนี้ พร้อมระบุว่า “ขอให้ยิงกันในศาลพอ อย่าให้มายิงกันในสภาเลย”
นายชวน ชี้แจงว่า เป็นขั้นตอนที่ประธานกรรมาธิการต้องดำเนินการเสนอชื่อตามข้อบังคับ เพื่อให้กรรมธิการทำหน้าที่ได้ ซึ่งการลาออกและการเสนอชื่อบุคคลเข้าทำหน้าที่แทน เป็นสิทธิ์ของกรรมาธิการ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ขอใช้สิทธิ์ในฐานะถูกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พาดพิง ว่า จะแจ้งดำเนินคดีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมกล่าวว่า “ให้ไปยิงกันที่ไหนก็ได้ แต่ขออย่ายิงกันในสภา” จนนายชวนตัดบทว่า จะยิงด้วยหนังสติ๊ก หรือยิงปืน ขอให้มือปืนทั้งหลายอย่ามาที่สภาก็แล้วกัน และยินดีเข้าไปช่วย หากคณะกรรมาธิการชุดใดมีปัญหา เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ทำลายการทำงาน
จากนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลุกขึ้นประท้วง ว่าการตั้งบุคคลจากพรรคการเมืองอื่น ขัดต่อข้อบังคับการประชุมข้อที่ 91 วรรคสอง เพราะกรรมาธิการต้องมีจำนวนตามอัตราส่วน ส.ส.ในสภา
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้เสนอชื่อ ชี้แจงว่า การลาออกและการแต่งตั้ง ไม่ขัดข้อบังคับข้อที่ 91 เพราะสัดส่วนโควต้าพรรคชาติพัฒนาได้ 3 ที่นั่งในคณะกรรมาธิการ 3 คณะ และยังคงสัดส่วนเดิมอยู่ ส่วนคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ที่เสนอตั้งนายไพบูลย์ นิติตะวัน เข้าไปคณะกรรมาธิการในสัดส่วนพลังประชารัฐ ทุกวันนี้บางคณะมี 4 คน บางคณะมี 3 คน เมื่อเสนอชื่อนายไพบูลย์ ก็จะมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 4 คน ไม่เกินโควต้าแต่อย่างใด
ทำให้นายจุลพันธ์ ขอตั้งกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย เพิ่มใน คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. บ้าง ซึ่งนายชวนวินิจฉัยว่า สามารถทำได้หากมีบุคคลสละสิทธิ์ในฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามถือว่าเรื่องนี้จบ และที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหามีเพียงชุดเดียว ที่มีปัญหามากหน่อย ก็จะเข้ามาช่วยดูกรรมาธิการชุดนี้ว่าจะทำงานอย่างไรให้ราบรื่น.-สำนักข่าวไทย