ไบโอไทยลั่นกฎหมายยกเลิก 3 สาร ต้องมีผล 1 ธ.ค.นี้

กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร ยันจุดยืนกฎหมายยกเลิก 3 สาร มีผล 1 ธ.ค. หวั่นโครงสร้างคณะกรรมการวัตถุอันตรายใหม่เสียงสนับสนุนลดลง ชี้ช่องใช้เงื่อนไขการคุ้มครองสุขภาพเร่งด่วนของ WTO ด้านผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมระบุแม้ใช้เงื่อนไขดังกล่าวก็ต้องมีระยะเวลาให้ประเทศสมาชิกพิจารณาเหตุผลของไทยจนเป็นที่ยอมรับ จึงจะปฏิบัติได้


นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการ มูลนิธิไบโอไทยและผู้แทนเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร กล่าวว่า เกรงจะมีการพลิกมติตามที่มีข่าวว่าจะมีการเลื่อนการยกเลิกสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด โดยอ้างเงื่อนไขว่าไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกรอบเวลาความตกลงในองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งมีระยะเวลา 60 วันในการแจ้ง (Notification) รวมถึงการให้เหตุผลเรื่องการมอบคืนผลิตภัณฑ์ และการจัดส่งไปประเทศต้นทางหรือประเทศที่ 3 นั้นทำไม่ทัน โดยขอชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 6 เดือน 

ทั้งนี้ โครงสร้างของคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่มีผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข 2 คน จากเดิม 3 คน อีกทั้งผู้แทนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 4 คนนั้น มีแนวโน้มว่า อย่างน้อย 2 คน คือ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมวิชาการเกษตรจะลงความเห็นชะลอการบังคับใช้กฎหมายยกเลิกออกไป จึงจะติดตามผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายอย่างใกล้ชิด


นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไทยสามารถยื่นคำร้องต่อ WTO ถึงเงื่อนไขการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนอย่างเร่งด่วน (urgent problems) ซึ่งระบุความตกลงดังกล่าวใน Annex B ข้อ 6 ภายใต้กรอบความตกลงเรื่องมาตรการสุขอนามัยและอนามัยพืช (AGREEMENT ON THE APPLICATION OF SANITARY AND PHYTOSANITARY MEASURES ) ซึ่งรัฐบาลไทยสามารถออกกฎหมายยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดได้ โดยไม่ต้องยึดเรื่องกรอบระยะเวลา 60 วันในการแจ้งต่อประเทศสมาชิก

ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ผู้แทนกลุ่มสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ระบุว่า แม้ทางเอ็นจีโอจะเสนอให้ใช้ความตกลงใน Annex B ข้อ 6 เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายยกเลิก 3 สารทันทีนั้น ตามกติกาของ WTO กำหนดว่าจะต้องให้เวลาที่เหมาะสมแก่ประเทศสมาชิกอื่นที่จะแสดงความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรและหารือเกี่ยวกับคำร้องดังกล่าว โดยไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้น จึงไม่ใช่ไทยจะทำอย่างไรก็ได้ในเวทีการค้าโลก เพราะไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล