กรุงเทพฯ26 พ.ย. รัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติร่วมถกปัญหาอาชญากรรมไร้พรมแดน หาแนวทางแก้ไข ป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ ไทยในฐานะเจ้าภาพมุ่งเป้าตามกรอบเจรจา แก้ปัญหาอาชญากรรมชายแดนขณะที่การค้าขายต้องมีความสะดวกคล่องตัว
พลตำรวจโท วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 13 ที่มีขึ้นระหว่าง 26-28 พฤศจิกายน นี้ เปิดเผยว่า ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไข และร่วมมือกับสมาชิกอาเซียน เพื่อป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ หนึ่งในประเด็นหลักของการหาแนวทางความร่วมมือ คือเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น บวกกับการเดินทางที่รวดเร็ว ส่งผลให้ปัญหาด้านอาชญากรรมเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน การจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ทุกประเทศได้มีความเข้าใจตรงกัน ในการที่จะปรับตัว แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
ในส่วนของเจ้าหน้าที่เอง เน้นให้สามารถรับมือกับปัญหาด้านอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ในทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางเทคโนโลยี ไซเบอร์ ปัญหายาเสพย์ติด ความร่วมมือการจัดการด้านปัญหาชายแดนให้มีประสิทธิภาพ ให้คน บุคลากร สินค้า ต่างๆ ผ่านพรมแดนได้อย่างสะดวก แต่ในขณะเดียวกันก็ต่อต้าน และยับยั้งไม่ให้อาชญากรรมข้ามชาติสามารถข้ามแดนได้
“สำหรับประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ ได้มีการนำเสนอปัญหาชายแดนที่ประเทศไทยมีการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไทยจัดการกับปัญหาชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด และในปีนี้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนได้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ซึ่งหวังว่าความร่วมมือที่ดีนี้จะสามารถจัดการกับปัญหาชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพยั่งยืน”
พลตำรวจโท วิสนุ กล่าวต่อว่า ในปีนี้นอกจากสมาชิกในอาเซียนแล้ว เรายังขยายวงออกไปยัง 3 ประเทศคู่เจรจา คือ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น ซึ่งจะเข้ามาร่วมเสริมกำลังในการสร้างประสิทธิภาพการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะปัญหาด้านอาชญากรรมไม่มีพรมแดน ซึ่งนอกจากการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะมีการลงนามความร่วมมือระหว่างกัน
สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 13 ตั้งแต่ 26-28 พฤศจิกายน นี้ มีรัฐมนตรีแห่งประเทศสมาชิกอาเซียนจากบรูไน ดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เข้าร่วม
โดยหัวข้อที่จะประชุมในอีก2วันข้างหน้า อาทิ การรับรองแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านการต่อต้านการเพิ่มขึ้นของพวกนิยมความรุนแรงและแนวคิดหัวรุนแรง พ.ศ.2562-2568 เตรียมผลักดันเรื่องการบริหารจัดการชายแดน (Border Management) เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ผลจากการที่นายกรัฐมนตรีไทย ได้กล่าวไว้ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 35 ที่ผ่านมา เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย
