ราชบพิธ 26 พ.ย. – หอการค้าไทยเผย 5 ปีข้างหน้าสินค้าไทยหลายชนิดมีโอกาสเสี่ยงสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในเวียดนามและเมียนมาให้กับจีน
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงสินค้าจีนในตลาด CLMV ที่มีผลกระทบต่อไทย ว่า ภาพรวมการส่งออกภายในอาเซียน หลังเปิดเออีซี (ปี 2016-2018) สินค้าจีนลดลงเล็กน้อย และเมื่อพิจารณาแยกกลุ่มเป็น ASEAN 6 คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และบรูไน กับ CLMV พบว่า สัดส่วนการส่งออกสินค้าจีนภายในอาเซียนลดลงในกลุ่มประเทศ CLMV ขณะเดียวกันในอาเซียน 6 ประเทศ ก็มีสัดส่วนการนำเข้าจากตลาดอาเซียนลดลง โดยนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น 5.9 เท่า คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 181,636 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาเซียน 6 ประเทศ ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 3.3 เท่า คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 136,317 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายอัทธ์ กล่าวถึงการค้าของจีนใน CLMV ที่มีผลกระทบต่อไทย ว่า ใน CLMV จีนมีส่วนแบ่งตลาดในเวียดนามมากที่สุด รองลงมา คือ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตามลำดับ สำหรับสินค้าไทยที่มีความเสี่ยงมากที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในเวียดนามให้กับจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ ด้าย ผ้าทอ ใยสังเคราะห์ ร็อกลอบสเตอร์และกุ้ง ไม้ แผงไม้ปูพื้น กระเบื้องไม้ เหล็กและส่วนประกอบ ข้าวโพด เครื่องหนัง เครื่องใช้สำหรับเดินทาง กระเป๋าถือ ชา กาแฟ
ส่วนในเมียนมา จีนมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด สำหรับสินค้าไทยที่มีความเสี่ยงมากที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในเมียนมาให้กับจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ เครื่องดื่ม สุรา ซอสและผงปรุงอาหาร ผลิตภัณฑ์จากเหล็กหรือเหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง เครื่องแต่งกาย เมล็ดธัญพืช อย่างไรก็ดี ไทยยังคงมีส่วนแบ่งตลาดในลาวและกัมพูชามากที่สุด การลงทุนของจีนใน CLMV ปี 2561 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2554 มากถึงร้อยละ 124 โดยกัมพูชามีอัตราการขยายตัวลงทุนจากจีนมากที่สุด รองลงมา คือ ลาวและเวียดนาม ส่วนไทยปี 2561 มีการลงทุนจากจีนเพิ่มขึ้น 497 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 และลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 ร้อยละ 4
สำหรับข้อเสนอแนะของหอการค้าไทยที่ไทยต้องปรับตัว คือ 1.ยุทธศาสตร์บินไปกับพญามังกร คือ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุตสาหกรรมของจีนเพื่อเป็นฐานการผลิตส่งออกไปยังประเทศที่สาม 2.ยุทธศาสตร์เสียบปลั๊ก คือ การหาลู่ทางการลงทุนในจังหวัดของไทยที่ใกล้กับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายจีน-ลาว-ไทย เช่น จังหวัดน่านกับแขวงหลวงพระบางของลาว และ 3.ยุทธศาสตร์ปลายซอย คือ ธุรกิจไทยจะต้องเข้าไปช่วยเติมเต็มธุรกิจจีน เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย