รัฐสภา 25 พ.ย.-“เทวัญ” ตอบกระทู้วุฒิสภา แจงกรณีการเช่าอาคารพาณิชย์วัดอรัญญิกาวาส ยืนยันรัฐไม่นิ่งนอนใจ กำลังเร่งตรวจสอบ พร้อมผลักดันแก้กฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ.2511) ออกตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ปิดช่องทางการหาผลประโยชน์กับวัด
การประชุมวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณากระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาการบริหารจัดการ ศาสนสมบัติของวัด โดยพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามว่า รัฐมีมาตรการในการกำกับดูแลและตรวจสอบเจ้าอาวาสและกรรมการวัดในการจัดการผลประโยชน์จากศาสนสมบัติของวัด เพื่อให้วัดสามารถจัดการได้อย่างถูกต้อง โปร่งใส โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของวัด และป้องกันไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดรับผลประโยชน์โดยมิชอบจากศาสนสมบัติของวัดหรือไม่ อย่างไร
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐมีนโยบายจะแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เพื่อให้การเช่าที่ดินหรืออาคาร ระยะเวลาการเช่าเกินสามปีจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อเป็นการกำกับดูแลให้วัดได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างเป็นธรรมจากศาสสมบัติของวัดหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่าการบริหารจัดการศาสนาสมบัติของวัดต่าง ๆ ประสบปัญหาหลายประการ อย่างกรณีของวัดอรัญญิกาวาส ซึ่งถือกรรมสิทธิ์อาคารพานิชย์ 51 คูหา ที่จังหวัดชลบุรี ได้ทำสัญญาให้เช่าแก่บริษัทเอกชนรายหนึ่งซึ่งกรรมการบริษัทมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับเจ้าอาวาส
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้แทนนายกรัฐมนตรี ถึงความคืบหน้ากรณีการเช่าอาคารพาณิชย์ของวัดอรัญญิกาวาสว่า รัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประจักษ์พยานทั้งเอกสารและบุคคล รวมถึง ป.ป.ช.ภาค 2 มีจดหมายให้รีบดำเนินการสอบสวนอีกทางหนึ่ง ส่วนกรณีของเจ้าอาวาส เลขาธิการมหาเถรสมาคมได้เรียนเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ให้ดำเนินการว่าการปล่อยเช่าอาคารเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เร่งรัดการสอบสวนด้วย โดยรับปากจะติดตามทุกหน่วยงานและแจ้งให้ทางวุฒิสภา รวมถึงหาทุกวิธีในการเอาเงินทุกบาทของวัดกลับมาให้ได้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 นั้นบังคับใช้มานานแล้ว หลายข้อเป็นช่องว่างและไม่ทันสมัย เห็นด้วยที่จะดำเนินการแก้กฎกระทรวงให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง มีผู้แสวงหาผลประโยชน์จากทางวัด ในการเช่าอาคารอย่างไม่โปร่ง ทางสำนักพระพุทธศาสนาไม่ได้นิ่งนอนใจ.-สำนักข่าวไทย