เพิ่มโทษ 2 ป๋าเชียร์แขก อาบ อบ นวด “วิตตอเรียฯ”

กทม.19 พ.ย.-ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษ 2 ป๋าเชียร์แขก อาบ อบ นวด “วิตตอเรียฯ” เป็นคุก 122 ปี 6 เดือน รวมชดใช้สินไหมสาวเมียนมา 2 ราย 1.6 แสนบาท


ที่ห้องพิจารณา 716 ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์สถานบริการ อาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเครท ที่อัยการยื่นฟ้องนายมนัสหรือป๋านัส อ่วมทับ อายุ 49 ปี และนายสมชายหรือป๋าต้น แสงอุดม อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพนักงานเชียร์แขก ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยบังคับขู่เข็ญ , เป็นธุระจัดหา ชักพาไปหญิงสาวอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น 

คำฟ้องระบุว่า เมื่อเดือนธันวาคม 2560 จนถึง 12 มกราคม 2561 จำเลยทั้ง 9 กับพวกสมคบกัน โดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยตกลงวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำ เพื่อเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ผู้เสียหายเป็นหญิงสาวรวม 9 ราย ทั้งคนไทยและคนเมียนมา ซึ่งอายุ15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี โดยร่วมกันให้ผู้เสียหาย ทำการค้าประเวณีที่สถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ถนนพระรามเก้า เขตห้วยขวาง เพื่อให้ผู้เสียหาย กระทำการค้าประเวณี ยอมรับการกระทำชำเรา อันเป็นการสำส่อนประพฤติตนไม่สมควร เพื่อสินจ้างหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อที่จำเลยกับพวกจะได้แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีของผู้เสียหายที่เป็นเด็ก แม้ผู้เสียหายยินยอมก็ตาม 


เดิมทั้งสองถือฟ้องร่วมกับนายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก แจ้งฉาย อายุ 67 ปี ผู้จัดการสถานบริการอาบอบนวดฯ กับพวกรวม 9 คน เมื่อเดือน เม.ย.61 แต่ชั้นพิจารณามีเฉพาะนายมนัส  และนายสมชาย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายศรัทธาธรรม  กับพวกที่เหลืออีก 7 รายให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดีจึงแยกสำนวนฟ้อง

คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2561 เห็นว่า นายมนัส และนายสมชาย มีความผิดฐานเป็นผู้ดูแลกิจการค้าประเวณี เป็นธุระจัดหาฯ และฐานสมคบทำผิดค้ามนุษย์แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีฯ จำคุก คนละ 46 ปี โดยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้ 22 ปี 12 เดือน

คดีนี้ทั้งอัยการโจทก์และจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ให้ลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษด้วย ศาลเบิกตัวจำเลยทั้ง 2 มาจากเรือนจำพิเศษกุรงเทพฯ


ศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ในข้อหาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยทั้ง 2 ฐานเป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการ สถานค้าบริการประเวณีฯซึ่งมีบุคคลอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี จำคุก 2 ปี 6 เดือน นั้นความผิดในส่วนนี้คู่ความไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คดีส่วนนี้จึงถึงที่สุดแล้ว ส่วนที่จำเลยทั้งสอง อุทธรณ์ว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวพันคดีของนายศรัทธาธรรม  ซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบริการวิคตอเรียซีเครท กับพวกรวม 7 คน โดยศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลยทั้ง 7 ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดค้ามนุษย์ด้วยการค้าประเวณี โดยลงโทษเฉพาะข้อหาเป็นธุระจัดหาบุคคลฯเพื่อสนองความใคร่และค้าประเวณี คดีของจำเลยทั้ง 2 จึงต้องยกฟ้องในข้อหาดังกล่าวด้วย 

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การจะพิจารณาต้องดูรูปเรื่องทั้งหมดซึ่ง คดีของจำเลยทั้ง 2 อัยการโจทก์ก็ได้บรรยายพฤติการณ์ฟ้องและนำสืบพยานหลักฐานจนฟังได้ว่า ร่วมกันกระทำผิดฐานโดยสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาบุคคลฯ สนองความใคร่ผู้อื่น และที่จำเลยทั้ง2 อุทธรณ์ขอให้พิจารณาลงโทษสถานเบาหรือรอลงโทษนั้นศาลอุทธรณ์ฯเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยทั้ง2 ที่โจทก์ฟ้องนั้นได้กระทำผิดต่อบุคคลจำนวนมาก ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี จากการค้าประเวณีอีกทั้งยังเป็นการกระทำที่อุกอาจ ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อุทธรณ์ของจำเลยทั้ง 2 จึงฟังไม่ขึ้น โดยอุทธรณ์ของอัยการโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน

ศาลจึงพิพากษาแก้ ให้เพิ่มโทษรายกระทงเป็น 2-10 ปี(จากที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา กระทงละ 2-5 ปี) โดยข้อหาที่โทษหนักที่สุดคือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหา บุคคลอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปีฯ จำคุก 7 กระทงๆละ 10 ปี เป็นจำคุก 70 ปี โดยรวมกับโทษ ฐานเป็นธุระจัดหาบุคคลให้ค้าประเวณีโดยขู่เข็ญฯ และข้อหาอื่นอีกหลายกระทง รวม จำคุก นายมนัส หรือป๋านัสและนายสมชาย หรือ ป๋าต้น ทั้งสิ้น 120 ปี จำเลยรับสารภาพเหลือโทษจำคุก 60 ปี โดยรวมกับที่ศาลชั้นต้นลงโทษฐานเป็นผู้ดูแลสถานค้าประเวณีฯ 2 ปี 6 เดือน เป็นจำคุก 62 ปี 6 เดือน แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วให้จำคุกสูงสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91  เป็นจำคุกคนละ 50 ปี และพิพากษาให้จำเลยทั้ง 2 ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายสองรายสัญชาติเมียนมาคนละ 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันฟ้อง 21 เม.ย. 61 (เดินศาลชั้นต้นยกคำขอชดใช้ค่าสินไหมทดแทน)นอกจากที่แก้ให้เป็นตามศาลชั้นต้น 

บรรยากาศภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาที่โทษสูงขึ้น นายมนัสถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ หน้าตาเคร่งเครียด ญาติต่างแสดงความเสียใจ หมดเรี่ยวแรง

คดีวิคตอเรีย ซีเครท สำหรับ ป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการนั้นได้ถูกยื่นฟ้อง 2 คดี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 จำคุก 2 สำนวนเป็นเวลาทั้งสิ้น 18 ปี 16 เดือน โดยยกฟ้องในข้อหาสมคบค้ามนุษย์ฯซึ่งคดีอยู่ระหว่างอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับจำเลยร่วมคนอื่น ส่วนนายกําพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล เจ้าของสถานบริการฯที่อัยการมีคำสั่งฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยนั้นปัจจุบันยังติดตามตัวมายื่นฟ้องไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะหลบหนีคดีโดยพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้ขอศาลออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งมีอายุความติดตามตัวมาฟ้องคดีภายใน 20ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย