ศาลยุติธรรม 14 พ.ย. – สำนักงานศาลยุติธรรมให้คำมั่นในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการศาล ขณะนี้สั่งเร่งแก้ไขพร้อมวางระบบการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงสั่งเพิ่มกำลังพบและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุถึงกรณีที่เกิดเหตุการณ์ยิงกัยภายในห้องพิจารณาคดีของศาลจังหวัดจันทบุรีว่า หลังเกิดเหตุทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ส่งตำรวจศาล (คอร์ทมาแชล) ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและเก็บข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อตรวจสอบหาว่ามีเจ้าหน้าที่ของศาลคนใดบ้างที่ต้องถูกดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ มีรายงานกลับมาเบื้องต้นว่า จากการตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของศาลจันทบุรีมีกำลังพลน้อยและยังมีประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ต่อจากนี้จะรวบรวมข้อมูลและพิจารณาอีกครั้ง คาดจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) ว่าต้องดำเนินกับเจ้าหน้าที่รายใดบ้าง
จากเหตุการณ์ความไม่สงบทั้ง 3 ศาลก่อนหน้านี้ ทั้งศาลจังหวัดยะลา ศาลจังหวัดพัทยา และล่าสุดศาลจังหวัดจันทบุรี สำนักงานศาลยุติธรรมจะรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาศึกษาหาแนวทางในการป้องกันการเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต
แต่การดำเนินการแรกที่เริ่มแล้วคือ การเสนอให้ปรับอัตราต่อที่ประชุมในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ให้มีจำนวนบุคลากรเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่ 35 คน หรืออย่างน้อยควรต้องมีตำรวจศาล 2 คนต่อศาล ทั้งศาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อการดูแลความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการวางระบบเพิ่มเติมของอุปกรณรักษาความปลอดภัยต่างๆ ทั้งกล้องวงจรปิด อุปกรณ์ตรวจอาวุธ เพิ่มลูกกรงเป็น 2 ชั้น ในศาลที่ยังไม่มี ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว หากพบว่ายังต้องเพิ่มเติมในจุดใดก็จะเร่งแก้ไขทันที
สำหรับการควบคุมดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ของศาลทั่วประเทศ จะมีหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องรวม 3 หน่วยงาน คือหน่วยงานศาล หน่วยงานตำรวจ และหน่วยงานราชทัณฑ์ ซึ่งในส่วนของศาลจะดูแลเรื่องสถานที่ ทั้งการจัดเตรียมพื้นที่ควบคุมขณะอยู่ในบริเวณศาล รวมถึงห้องพบญาติ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้ว และจะให้ดำเนินการแก้ไขในจุดที่ยังต้องแก้ไข เช่น ศาลใดที่ยังเป็นลักษณะห้องขังชั้นเดียว ให้ดำเนินการแก้ไขเป็นแบบสองชั้น เพื่อป้องกันการส่งของให้กับผู้ต้องขังในระหว่างที่พบญาติ ส่วนหน่วยงานอีกสองหน่วยงาน จะแบ่งหน้าที่กันตามแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตาม สำนักงานศาลยุติธรรมยืนยันจะดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาใช้พื้นที่ศาล และเร่งวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือทราบข่าวว่าจะมีการวางแผนหรือดำเนินการความรุนแรงในพื้นที่ของศาล แจ้งมายังศาลได้ทันทีเพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย