ปอท.เปิดปฏิบัติการตามล่า “LINE Group Hacker”จับ 2วัยรุ่นยึดอุปกรณ์หลักฐานชัด

กรุงเทพฯ 13 พ.ย.- ตำรวจ ปอท.แถลงผลปฏิบัติการตามล่า “LINE Group Hacker” จับผู้ต้องหาได้  2  คน พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง  


พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  เปิดเผยหลัง ตำรวจ ปอท.ใช้ปฏิบัติการตามล่า “LINE Group Hacker” ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2562 จับผู้ต้องหา  1 คน ในซอยบุปผาบุรี เขตยานนาวา พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง และต่อมามีผู้ต้องหามามอบตัวอีก 1 คน โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ ไม่ได้เรียนหนังสือและเสพยาเสพติด

โดยพฤติการณ์ ร่วมกันสร้างลิงก์ส่งไปตามระบบไลน์ เช่น ลิงค์ 18+,ใบ้หวย,ดูดวง,สติกเกอร์ฟรี แฝงโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หลอกช่วยโหวตลูกหลานประกวดร้องเพลงฯลฯ เพื่อหลอกให้ประชาชนกดดู จากนั้นจะแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม ก่อนจะดูดและแฮกข้อมูลเข้าระบบไลน์ นำข้อมูลไปแสวงหาประโยชน์ รวมถึงทักไปยังเพื่อนในไลน์ให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงิน เช่นให้ร่วมทำบุญ ขณะนี้พบมีผู้เสียหายกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายกว่าแสนบาท 


ส่วนอีกคดี พบการกระทำผิดในลักษณะ ใช้บัตรประชาชนเปิดซิมมือถือใหม่ แล้วแฮกคะแนนวอลเล็ตจากบุคคลอื่น จากนั้นจะไปแลกซื้อสินค้าต่างๆ เพื่อไปขายของในโลกออนไลน์ในราคาถูกมาก ซึ่งคนที่หลงซื้อจะเข้าข่ายรับซื้อของโจรด้วย 

นอกจากนี้ยังพบวิธีโกงในรูปแบบใหม่ของมิจฉาชีพ เมื่อแฝงเข้าไปในกลุ่มไลน์ในโทรศัพท์แล้ว จะโทรไลน์ไปหาเพื่อนในกลุ่ม เมื่อเหยื่อรับสายจะวางหูทันที และบอกไม่สะดวกคุยขอคุยทางข้อความไลน์แทน จากนั้นก็แชทยืมเงินจนเหยื่อหลงเชื่อโอนให้

สำหรับอัตราโทษกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มีอัตรา โทษสูงสุด จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท ความผิดเกี่ยวกับสแปม “ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข” มีอัตราโทษสูงสุด 100,000 บาท  และ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกฯ” มีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


ทั้งนี้ตำรวจ ปอท.แนะวิธีตรวจสอบในไลน์ ให้ไปที่เมนู การตั้งค่า>บัญชีผู้ใช้งาน>อุปกรณ์ที่เข้าสู่ระบบ หากอุปกรณ์ใดที่ท่านไม่เคยใช้งานมาก่อน ให้ทำการออกจากระบบ (Log Out) และหากประชาชนท่านใดพบผู้ใช้งานไลน์นิรนามเข้ากลุ่มไลน์และเผยแพร่ส่งต่อ แจ้งเบาะที่ ศูนย์ต่อต้านความปลอม (Anti Fake News Center) ทางเว็บไซต์ antifakenewscenter.com หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02 288 8000 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้