กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – สาวที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา งัดหลักฐานแฉเพิ่ม สว.คนดัง ลวนลาม-พาขึ้นคอนโดฯ ล่วงละเมิด เปิดใจไม่หวาดกลัวและไม่ยอมความ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ (10 ก.ค.) นางสาวขวัญ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา เปิดเผยหลักฐาน พร้อมเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุละเอียดยิบให้ทีมข่าวสำนักข่าวไทยฟังว่า รู้จักกับ สว.ท่านนี้ ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 ซึ่งในตอนแรก สว. ให้ความสนใจเพื่อนของตนในกลุ่ม แต่สุดท้ายไปทราบว่าเพื่อนตนมีโลกสองใบเลยอกหัก มาขอความเห็นใจจากตน ก่อนจะกลายมาเป็นคนคุยๆ กัน แต่ต้องเลิกคบหากันไปตามที่เคยเล่าให้สื่อฟัง แม้ว่าจะห่างกัน แต่อยู่ที่รัฐสภาต้องเจอหน้ากัน ก็ยังมีการทักทายตามปกติ เป็นการรักษามารยาท
จนเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนส่งข้อความไปอวยพรวันเกิด สว.ท่านนี้ย้อนหลัง และเขาชวนไปกินข้าว ซึ่งตนยังทำงานอยู่จึงหลีกเลี่ยง เพราะกลัวว่าจะมีแอลกอฮอล์มาเกี่ยวข้อง จึงขอเปลี่ยนเป็นขนมหวานแถวย่านบรรทัดทองแทน จนเวลาประมาณ 21.16 น. สว.คนดังกล่าวขับรถยนต์มารับตนที่บ้านพัก ไปร้านขนมหวาน ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านยืนยันว่าตนไปกินขนมหวานกันจริง ไม่มีประเด็นแอลกอฮอล์
กระทั่งเวลา 22.36 น. กล้องวงจรปิดจับภาพขณะ สว. ขับรถเข้ามาจอด แต่อย่างที่เคยชี้แจงต่อสื่อไปว่าระหว่างนั้นตนจะลงจากรถ แต่ถูก สว. กระชากแขนไว้แล้วล็อกประตูรถ อ้างว่าอยากเข้าห้องน้ำ ขอกลับไปเข้าห้องน้ำที่คอนโดฯ ตนบอกแล้วว่าเข้าที่บ้านตนก็ได้ แต่ สว. ไม่ยอม มีการเจรจากันอยู่พักใหญ่ จะเห็นได้ว่าใช้เวลาอยู่หน้าบ้านตนราว 19 นาที (22.51 น.) สว. จึงขับรถออกไป ซึ่งตนไม่ได้ยินยอมแต่ถูกขู่บังคับ
เมื่อไปถึงคอนโดฯ ซึ่งก็เป็นไปตามคลิปที่มีการเผยแพร่กันก่อนหน้านี้ ตนลงจากรถมานั่งแอบที่เสา แล้ว สว. ก็ดึงแขนตนให้เดินตามไป ตอนนั้นอาการแพนิกของตนเริ่มกำเริบ รู้สึกเครียด อ่อนแรง สับสน ไม่รู้ว่าจะหาทางออกอย่างไร เหมือนจะวูบเป็นลมไปอยู่หลายครั้ง แต่ถูก สว. ดึงตัวให้เดินตามจนเข้าไปในห้องพัก และตนถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตนยกมือไหว้ร้องขอให้หยุดจนร้องไห้หนักมาก สุดท้าย สว. จึงหยุดการกระทำ และตนรีบหนีออกมาจากห้อง โดยรีบมาก ไม่ได้ใส่รองเท้าด้วยซ้ำ แล้ว สว.ท่านนี้ ก็เดินตามมา ซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืด กางเกงขาสั้นแล้ว และขับรถยนต์มาส่งตนที่บ้าน ตอนนั้นเป็นเวลา 00.02 น. ของวันที่ 7 พ.ค. แต่กว่าจะยอมให้ตนลงจากรถ ใช้เวลา 7 นาที จึงอาศัยจังหวะหนีลงมาจากรถได้
หลังเกิดเหตุตนยังไม่เคยได้พูดคุยกับ สว.คนดังกล่าว เพราะตอนนั้นคงยังไม่รู้ว่าตนไปแจ้งความไว้แล้ว แต่พอทราบเรื่องภายหลังก็มาหาตนที่บ้าน เมื่อวันที่ 18 หรือ 19 ตนไม่แน่ใจ แต่เจอกับอาของตน ซึ่ง สว.คนดังกล่าว บอกว่าอยากพบตนกับคุณแม่ คาดว่าจะมาขอเจรจา แล้วส่งข้อความมาหา แต่ตนขอให้คุยผ่านทนายความคนเก่าของตนเท่านั้น ยืนยันว่าจะไม่มีวันเคลียร์เรื่องนี้ โดยในส่วนคดีความอยู่ระหว่างตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งน่าจะใช้เวลาพอสมควร ก่อนส่งอัยการยื่นฟ้อง แล้วตนให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ตนไม่มีความกังวลใดๆ หรือกลัวที่อีกฝ่ายแจ้งความกลับ เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย ต่อสู้กันตามหลักฐานพยาน ส่วนความรู้สึกของตนตอนนี้ ยอมรับว่าใช้ชีวิตไม่ปกติเลย เพราะโดนยากดประสาทเอาไว้ แต่วันนี้ได้รับกำลังใจจากเพื่อน สื่อมวลชน ตนก็มีกำลังใจดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย