สธ.13 พ.ย.-สธ.จัดประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของราชวงศ์จักรีกับการแพทย์และการสาธารณสุขไทย และพระมหากรุณาธิคุณในความห่วงใยสุขภาพของประชาชนที่อยู่ห่างไกลให้ปรากฏแก่สายตาชาวไทยและชาวต่างชาติ แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานวิจัยและนวัตกรรมสุขภาพ สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการในระดับนานาชาติ
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เปิดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก (International Conference on Advancement in Health Sciences Education and Professions : Synergy and Reform for Better Health (IHSEP2019) in Celebration of the Royal Coronation Ceremony) ว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 จึงได้จัดการประชุมวิชาการนานาชาติเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของราชวงศ์จักรีกับการแพทย์และการสาธารณสุขไทย ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และความห่วงใยสุขภาพของประชาชนที่อยู่ในชนบทห่างไกล ให้ปรากฏแก่ ชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานวิจัยและนวัตกรรมสุขภาพ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการในระดับนานาชาติ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรการแพทย์และการสาธารณสุข เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศไทยบรรลุสู่เป้าหมาย การมีสุขภาพที่ดี การให้บริการที่ดี การเข้าถึงระบบสุขภาพที่มากขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายทางด้านการแพทย์ บุคลากรทางด้านการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม ในจำนวนที่เหมาะสม ครอบคลุมทุกสาขาวิชาชีพ ตลอดจนการดึงศักยภาพของบุคลากรดังกล่าวมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ จึงมีความจำเป็นต่อการฝึกอบรมบุคลากรสายวิชาชีพต่างๆ ให้มีความรู้ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ให้สามารถคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาสำหรับผู้ป่วยและการให้บริการทางการแพทย์ในทุกๆ วันได้
“หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการปรับปรุงระบบสุขภาพของประชาชน รวมทั้งการดูแลผู้ป่วยและระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น” นายอนุทินกล่าว
ด้าน ปลัด สธ.กล่าวว่า การจัดการประชุมวิชาการนานาชาติครั้งนี้ สถาบันพระบรมราชชนกและสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี ได้รับความร่วมมือจาก 15 หน่วยงานจากประเทศจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเชีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นิวซีแลนด์ อังกฤษ อเมริกา สวีเดน และสิงคโปร์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ นักวิจัยและนักศึกษา จาก 10 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สวีเดน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และไทย ร่วมประชุม
สำหรับสถาบันพระบรมราชชนก มีวิทยาลัยในสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 39 แห่ง แบ่งเป็นวิทยาลัยพยาบาล 30 แห่ง วิทยาลัยการสาธารณสุข 7 แห่ง วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์กาญจนาภิเษก และวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี .-สำนักข่าวไทย