สว.หนุน กสศ.ทำงานช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

กรุงเทพฯ 12 พ.ย..-สว.หนุน กสศ.ทำงานช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา  ยันเกิดประโยชน์ลงทุนแค่ 1 บาทวันนี้ จะได้เงิน 7 บาทในอนาคตและช่วยลดภาระรัฐบาลหลายด้าน ผจก.กสศ.ระบุช่วยเด็กตรงจุดผ่านวิธีใหม่ ไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น 


ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) ได้พิจารณารายงานประจำปี 2561 ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยสมาชิกวุฒิสภาได้ให้ข้อเสนอว่ากสศ.ควรมีการบูรณาการด้านข้อมูลและการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม และสร้างข้อมูลพื้นฐานเพื่อการทำงานในอนาคตโดยเฉพาะการตรวจสอบความซ้ำซ้อนในการช่วยเหลือด้านการศึกษา และควรมีการบริหารงบประมาณอย่างคุ้มค่า มีการติดตามกลุ่มเป้าหมายและประเมินผลเป็นระยะ ทั้งนี้ได้มีสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนอภิปรายถึงการถูกตัดลดงบประมาณของกสศ. ว่าจะทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้จริง   พร้อมเรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้


นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกวุฒิสภา  กล่าวว่า กองทุนเพื่อความเสอมภาคทางการศึกษา ไม่ใช่กองทุนที่ทำงานเป็นปกติเหมือนราชการ เป็นกองทุนเดียวที่ปรากฎในรัฐธรรมนูญ เพราะการศึกษาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่หน่วยงานของรัฐจะไปทำให้โอกาสนี้ลดน้อยลง ในครั้งแรกก็เข้าใจข้อจำกัดเรื่องงบประมาณนี้ว่าอาจจะจัดสรรไม่ได้ถึง 25,000 ล้านบาท แต่ถ้าคำนวณ25,000 ล้านต่อปี ดูแลเด็กและเยาวชนที่เลือกเกิดไม่ได้ 4 ล้านคน คำนวณตกเดือนละไม่เกิน 600 บาท  เป็นปัญหามากมายมหาศาลทุกขั้นตอน ปี 2563 เรายังจัดสรรเงินที่ 5,000 ล้าน จาก25,000 ล้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดเหลือ 3,000 ล้าน หน่วยงานที่ตัดงบประมาณ คือหน่วยงานไหน มีเหตุผลอะไร มีความคิดอะไร  เรื่องไหนสำคัญกว่ากัน  สาธารณะน่าจะมีส่วนร่วมรับทราบเรื่องนี้ การช่วยคนยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่มีเงินมีอำนาจจะทำสำเร็จ ผมเห็นว่า กสศ. ได้ถูกออกแบบ ผ่านการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์เป็นระบบ ด้วยงานวิจัยจากต่างประเทศ มีความเชื่อว่าการจัดงบประมาณลักษณะนี้จะทำให้เข้าถึงโอกาส ทำให้ทุกคนเสมอภาคกัน แต่พอเริ่มช่วยได้ไม่

“ผมไม่โทษกองทุนฯเพราะเงินได้มาแค่นี้ กองทุนต้องทำงานหนัก อย่าท้อถอย เร่งทำงานให้สังคมเห็นความสำคัญ เพราะลงทุน 1 บาทวันนี้ จะได้เงิน 7 บาทในอนาคต เพราะคนเหล่านี้ไม่เป็นภาระ วัยแรงงาน ซึ่งลดจำนวนเงินช่วยเหลือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโตไปเป็นผู้สูงอายุที่พึ่งพาตัวเองได้ คนเหล่านี้พัฒนาศักยภาพ เป็นแรงงานฝีมือเสียภาษีให้รัฐ รัฐก็ลดเงินกู้มาโปะงบประมาณ สามารถสร้างการแข่งขันระดับประเทศ คนเหล่านี้จะเคลื่อนทัพมาเรื่อยๆ กสศ.ต้องช่วยตัวเองในการทำให้สาธารณะข้าใจเรื่องนี้ ต้องร่วมกันสนับสนุน ทำงานใช้เงินคุ้มค่า ลดความซ้ำซ้อน” นพ.เฉลิมชัย ระบุ


นพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา  กล่าวว่า การเกิดของกสศ.จะเป็นคานงัดการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ แต่วันนี้สิ่งที่หวังว่าจะเป็นคานงัด น่าจะงัดได้น้อยมาก เรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญ ถ้าเกิดกองทุนแล้วต้องวิ่งหาเงินเองก็คงไม่ไหว รัฐบาลต้องเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ต้องลดความเหลื่อมล้ำช่วยคนเล็กคนน้อยในสังคม ยกตัวอย่าง กรณีโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นของกสศ. เป็นโครงการเล็กมาก ทั้งที่โครงการแบบนี้เป็นจุดคานงัดที่สำคัญ  แต่ดูจากโครงการแล้วเฉลี่ยได้ครูปีละ 300 คน 5 ปี 1,500 คน ถือว่าปริมาณน้อยมาก เราต้องการทั่วประเทศมากกว่านี้  เรื่องนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เราต้องให้โอกาสคนยากจน ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาให้มากที่สุด  อยากให้มองให้ใหญ่ ขยายผลเห็นหน้าเห็นหลัง

นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา  กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นการดำเนินการได้จัดระบบฐานข้อมูลให้สมบูรณ์ ออกระเบียบข้อบังคับให้ระบบงาน กสศ.น่าเชื่อถือ โปร่งใสมากที่สุดเท่าที่ทำได้  กสศ.เป็นองค์กรขนาดเล็กมีบุคลากรเพียง 50 คน เน้นแนวทางการทำงานร่วมกับองค์กรที่มีอยู่แล้วเป็นหลัก กสศ.เป็นแนวหนุนมากกว่าจะไปดูแลเยาวชนด้วยตัวเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือย่างดี ทั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่เป็นกำลังสำคัญทำให้งบประมาณไปถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างดี ที่ผ่านมา กสศ.มีระบบติดตามผลลัพธ์นักเรียนที่ได้รับทุนเสมอภาค โดยพบว่าทำให้เด็กมาเรียนได้ถึงร้อยละ 98 อีก  ทั้งมีฐานข้อมูลตามดูผลการเรียนรายบุคคล เมื่อได้รับทุนจาก กสศ.แล้วผลการเรียนก้าวหน้าอย่างไร

ซึ่งเรื่องฐานข้อมูลถือเป็นการลงทุนที่ช่วยเหลือประชาชน มีการแชร์ฐานข้อมูลกับกระทรวงการคลังอยู่ ซึ่งกระทรวงการคลังมั่นใจฐานข้อมูลกสศ. ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 2 ล้านคน ลงลึกข้อมูลเชิงประจักษ์  ใช้ประโยชน์ได้ทั้งการวิเคราะห์นโยบายระดับชาติ  วิเคราห์ระดับโรงเรียน นักเรียนคนไหน เข้าเรียนน้อย มาก มีความสม่ำเสมอหรือไม่   มั่นใจได้ว่า ปัญหาการให้ทุนซ้ำซ้อนจะลดลงไป ปัญหานักเรียนยากจนด้อยโอกาสมีปัญหาหลายด้าน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการศึกษา กสศ.จะบูรณาการข้อมูลร่วมกับกระทรวงต่างๆ สามารถเห็นกลุ่มเป้าหมายคนเดียวกันได้ หน่วยงานไหนมีหน้าที่อย่างไร ก็สามารถดูแลกลุ่มเป้าหมายคนเดียวกันในหลายๆมิติ  กสศ.จะค่อยๆขยายงานไป บนความพร้อมฐานข้อมูล  และฐานข้อมูลนี้จะดูแลต่อเนื่องระยะยาว ไม่ว่าเด็กจะย้ายไปเรียนต่อสังกัดไหน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทำเนียบฯ เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568

ทำเนียบรัฐบาล จัดเต็ม เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ2568 เปิดหน้าทำงาน-นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สวมบทบาทโฆษกรัฐบาล “นิวส์จิ๋ว” อ่านข่าวภาคภาษาไทย และอังกฤษ พบขบวนมาสคอต “หมูเด้ง” และผองเพื่อน