กรุงเทพฯ 11 พ.ย. – กระทรวงเกษตรฯ บูรณาการทุกหน่วยงานฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 เร่งสรุปจำนวนเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการทางเลือก 5 โครงการ พร้อมปฏิบัติการทันทีที่ได้รับงบประมาณ ช่วยเกษตรกรให้มีรายได้เร็วที่สุด
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กำลังเร่งสรุปจำนวนเกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมโครงการสร้างรายได้ 5 โครงการตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟู เยียวยา เกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 ที่ ครม.มีมติอนุมัติกรอบวงเงินกว่า 3,120 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม จากนั้นกระทรวงเกษตรฯ เปิดให้เกษตรกรสมัครระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน โดยเกษตรกรสามารถเลือกและสมัครเข้าร่วมโครงการได้เพียง 1 โครงการ จากทั้งหมด 5 โครงการ
สำหรับ 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกรหน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ประสบภัยให้สามารถกลับมาเพาะปลูกพืชสร้างรายได้ในฤดูแล้ง โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ของเกษตรกรเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ รายละไม่เกิน 20 ไร่ เป้าหมายเกษตรกร 150,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1.4 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 100,000 ครัวเรือน พื้นที่ 1 ล้านไร่ อัตราไร่ละ 245 บาท ถั่วเขียว 50,000 ครัวเรือน พื้นที่ 400,000 ไร่ อัตราไร่ละ 200 บาท
2.โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าวปี 2563/2564 หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมการข้าว เป้าหมายเกษตรกร 827,000 ครัวเรือน เมล็ดพันธุ์ข้าว 63,200 ตัน พื้นที่ 6.32 ล้านไร่ โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรไร่ละ 10 กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ชนิดพันธุ์ข้าว 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ (พันธุ์ กข15 และ ขาวดอกมะลิ 105) ข้าวหอมปทุม (พันธุ์ปทุมธานี1) ข้าวเจ้าไม่ไวแสง (พันธุ์ กข29 กข31 กข41 กข49 กข57 ชัยนาท 1 และพิษณุโลก 2) ข้าวเหนียวไม่ไวแสง (พันธุ์สันป่าตอง 1) ข้าวเหนียวไวแสง (พันธุ์ กข6) จัดส่งเมล็ดพันธุ์ข้าวกลุ่มไม่ไวแสงช่วงเดือนกลางเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือน ธันวาคม 2562 สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกลุ่มข้าวไวแสงจะจัดส่งช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2563
3.โครงการพัฒนาเสริมทางเลือกอาชีพด้านประมง คือ การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในบ่อดิน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมประมง เป้าหมายเกษตรกร 50,000 ราย ได้รับพันธุ์ปลานิลแปลงเพศ 800 ตัว/ราย พร้อมอาหารสัตว์น้ำนำร่อง 120 กิโลกรัม/ราย โดยพันธุ์ปลานิลแปลงเพศที่สนับสนุนจะมีขนาดใหญ่ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงสั้น 4.โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ กรมประมง มีเป้าหมายแหล่งน้ำในชุมชน 1,436 แห่ง โดยปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำชุมชนขนาดกลางหรือขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแบบปิดโดยสนับสนุนลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามขนาดตั้งแต่ 5-7 เซนติเมตรขึ้นไป 200,000 ตัวต่อแหล่งน้ำ การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามนั้นมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วและเป็นอาชีพเสริมที่ให้ผลตอบแทนสูง
5.โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีก หน่วยงานรับผิดชอบ คือกรมปศุสัตว์ เป้าหมายเกษตรกร 48,000 ครัวเรือน ในพื้นที่ 17 จังหวัด โดยสนับสนุนเป็นเงินโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.ของเกษตรกรเพื่อซื้อพันธุ์ไก่ไข่-เป็ดไข่ ครัวเรือนละ 10 ตัว ไก่พื้นเมืองคละเพศ อายุ 1 เดือนครัวเรือนละ 30 ตัว พร้อมค่าอาหารและค่าวัสดุในการเลี้ยง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เมื่อสรุปจำนวนเกษตรกรที่สมัครแต่ละโครงการแล้วจะเสนอกระทรวงเกษตรฯ เพื่อแจ้งขอรับงบประมาณทันทีที่สำนักงบประมาณอนุมัติให้ทุกกรมที่รับผิดชอบพร้อมเดินหน้าทันที โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการตุลาคม 2562 – 30 กันยายน 2563.-สำนักข่าวไทย