ยธ.9 พ.ย.-รมว.ยุติธรรม ห่วงประชาชน ถูกแก๊งลิขสิทธิ์ตบทรัพย์ สั่งศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แนะอย่ารับทำสินค้าสุ่มเสี่ยงป้องกันตัวเองก่อน
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวเด็กหญิง อายุ 15 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ดำเนินการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการสั่งซื้อหรือสั่งให้ทำกระทงที่มีรูปการ์ตูน แล้วเมื่อนำมาส่งให้ ก็ถูกจับดำเนินคดีที่ แล้วมีการเรียกเงินค่าเสียหายเพื่อเป็นการไกลเกลี่ย 5,000 บาท ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้และสั่งการให้ศูนย์ยุติธรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรม แจ้งข้อกฎหมายให้ประชาชนทราบว่า หากมีกรณีที่มีผู้มาติดต่อว่าจ้างหรือสั่งให้ทำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ โดยที่มิได้มีเจตนากระทำอยู่ก่อนแล้ว หากมีการจับกุมจะถือได้ว่าผู้ว่าจ้างหรือผู้สั่งทำเป็นผู้ก่อให้กระทำผิด ซึ่งทางกฎหมายถือว่ามิใช่ผู้เสียหาย (โดยนิตินัย) ที่จะมีอำนาจแจ้งความร้องทุกข์ดำเนคดีได้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่ถูกกระทำดังกล่าว อย่าตกลงยินยอมหรือขอยอมความโดยการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ตัวแทนลิขสิทธิ์ เพราะกรณีเช่นนี้เมื่อคดีไปถึงศาล ศาลจะพิพากษายกฟ้อง
“หากถูกกระทำดังกล่าวกรณีประชาชนทั่วไปที่ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรระมัดระวังโดยไม่ควรนำเครื่องหมาย เครื่องหมายการค้า โลโก้หรือสัญลักษณ์ รูปรอยประดิษฐ์ เช่น รูปตัวการ์ตูน ที่มีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ประดิษฐ์ไว้อยู่ก่อนแล้วมาใช้หรือทำให้ปรากฎที่ตัวสินค้า เพราะอาจจะเป็นความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์ได้ หากมีผู้มาติดต่อว่าจ้างหรือสั่งทำ และระบุหรือกำหนดเงื่อนไขให้มีเครื่องหมายการค้า หรือสัญลักษณ์ รูปรอยประติษฐ์ หรือรูปตัวการ์ตูน ต่างๆ ควรที่จะได้ตรวจสอบหรือสอบถามให้แน่ชัดว่าผู้ว่าจ้างหรือผู้สั่งทำเป็นเจ้าของสิทธิหรือมีสิทธิในการใช้สัญลักษณ์ เครื่องหมายหรือตัวการ์ตูนดังกล่าว หากเห็นว่าไม่มีสิทธิที่จะใช้ ควรปฏิเสธไม่รับงานดังกล่าว” ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าว
นอกจากนี้ กรณีประชาชนถูกตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์เข้าตรวจหรือล่อซื้อ ตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น ไม่สามารถทำการตรวจค้นได้เองโดยลำพัง จะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ทำการตรวจ และต้องขอตรวจสอบดูหมายค้นให้ละเอียด พร้อมทั้งขอดูบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจผู้มาตรวจคันเสียก่อน หากไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้รีบแจ้งไปที่สถานีตำรวจทั้องที่นั้นๆ เพื่อมาตรวจสอบการปฏิบัติของตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ .-สำนักข่าวไทย