กรุงเทพฯ 8 พ.ย. – รมว.พลังงานแนะช่องเอสเอ็มอีร่วมพัฒนาต่อยอดนโยบายพลังงานชุมชน ทั้งกาญจนบุรีโมเดล และโรงไฟฟ้าชุมชนขับเคลื่อนทั่วประเทศ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และประธานผู้ก่อตั้งสมาพันธ์ SME ไทย ได้ร่วมมอบรางวัลสมาพันธ์ SME ไทยระดับจังหวัดและระดับผู้ประกอบการ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยระบุว่าโลกปัจจุบัน Disruptive Technology ก่อให้เกิดโอกาสของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ปรับตัวได้รวดเร็ว แต่ต้องโตไปพร้อมกับพันธมิตรเครือข่ายทั้งไทยและอาเซียน ซึ่งไทยได้เปรียบด้านยุทธศาสตร์ในอาเซียน และพิจารณาถึงสินค้าที่มีโอกาสควบคู่การใช้ช่องทางจำหน่ายทุกรูปแบบและการวางโลจิสติกส์ที่เหมาะ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในฐานะที่ดูแลกระทรวงพลังงานมี 2 นโยบายหลักที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะเข้า มาร่วมโครงการได้ทั้งในฐานะผู้รวบรวมวัตถุดิบเชื้อเพลิง และรับต่อสินค้าเกษตรและอื่น ๆ จากชุมชนไปจำหน่าย ได้แก่ 1.โครงการพลังงานชุมชนที่จะนำแนวคิดกาญจนบุรีโมเดลของเครือข่ายกสิกรรมผักปลอดสารพิษไปต่อยอดทั่วประเทศที่ชุมชนผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ลงทุนประมาณ 500,000 บาท สามารถใช้พลังงานลดต้นทุนทำห้องเย็นเก็บผัก และทำระบบน้ำ RO น้ำที่ได้ส่วนหนึ่งร้อยละ 70 ผลิตน้ำแข็ง ส่วนหนึ่งร้อยละ 30 นำไปรดน้ำต้นไม้ ทำประโยชน์แก่ชุมชนได้ถึง 100 ครัวเรือน และ 2.โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนทั่วประเทศ 1,000 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชุมชนละไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ คาดมีเงินลงทุนประมาณ 200,000 ล้านบาท
“ธุรกิจพลังงานมีโอกาสเยอะมาก เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตทุกคนตั้งแต่ตื่นจนหลับ ใครเข้ามาจับถูกทางก็รวยได้ โดย 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐีที่โตเร็วก็คือนักธุรกิจพลังงาน และยังกระตุ้นตลาดหุ้น ซึ่งนโยบายพลังงานเพื่ิอทุกคนที่ตนทำก็จะสร้างประโยชน์ทั้งเศรษฐกิจฐานราก เอสเอ็มอี และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม” รมว.พลังงาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย