fbpx

เหยื่อถูกล่อซื้อลิขสิทธิ์ 22 ราย หอบหลักฐานแจ้งความ

นครราชสีมา 7 พ.ย. – พบเพิ่มเหยื่อที่โดนแบบเดียวกับล่อซื้อกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ รวม 22 ราย เสียหายรวม 400,000 บาท แห่หอบหลักฐานแจ้งความ ระดมทนายความช่วยเหลือทางคดี โทษต่างกรรมต่างวาระจำคุกถึง 100 ปี


จากกรณีมีผู้อ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์การ์ตูนชื่อดัง วางแผนล่อซื้อจับกุมเด็กสาวอายุ 15 ปี ผลิตกระทงลวดลายการ์ตูนขาย หารายได้พิเศษ ถูกเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท แต่เจรจาตกลงจ่ายค่าเสียหาย 5,000 บาท แล้วถอนแจ้งความ ปรากฏหลังกระแสข่าวแพร่สะพัดออกไป มีผู้เสียหายที่เคยถูกกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ล่อซื้อและจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หลากหลายชนิดสินค้า ทั้งแก้วเก็บความเย็น กระทง สติกเกอร์ เสื้อ ซองพลาสติกใส่โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ รวม 22 คน นำหลักฐานมาปรึกษาข้อกฎหมายกับทีมทนายความอาสาของสภาทนายความ จ.นครราชสีมา เพื่อรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง ก่อนแจ้งความกับทีมพนักงานสอบสวนที่ตั้งวอร์รูมรับแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เอาผิดกับกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว รวมถึงความผิดฐานแจ้งความเท็จ และใช้เอกสารปลอม โดยแต่ละคนถูกกระทำในลักษณะเดียวกันทั้งหมด คือ ติดต่อล่อซื้อสินค้า แล้วพาตำรวจจับกุมขณะนัดหมายส่งสินค้า ก่อนนำตัวมาเข้าห้องมืดเจรจาไกล่เกลี่ย เรียกค่าเสียหาย ข่มขู่หากไม่ยอมจ่ายจะถูกดำเนินคดีถึงขั้นจำคุก ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ทั้งวัยรุ่น วัยเริ่มต้นการทำงาน ถูกเรียกค่าเสียหายคนละ 10,000 บาท 30,000 บาท 50,000 บาท สูงสุด 100,000 บาท รวมค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 400,000 บาท


ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามคดีล่อจับกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ โดยประชุมหารือกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพาตัวเด็กสาววัย 15 ปี พร้อมผู้ปกครอง เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเด็กสาววัย 15 ปี เล่ารายละเอียดการถูกจับกุมตั้งแต่ต้น จนถึงขั้นตอนการจ่ายเงินค่าเสียหายอย่างละเอียด ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งตัวแทนลิขสิทธิ์ ถือว่าเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากคนของตัวแทนลิขสิทธิ์เป็นผู้สั่งให้ผลิตกระทงลวดลายการ์ตูนเอง เพื่อเป็นหลักฐานนำไปสู่การจับกุมคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เท่ากับว่า บริษัทลิขสิทธิ์การ์ตูนไม่ได้เกิดความเสียหาย ซึ่งผู้ปกครองได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดี


หลังจากนี้จะออกหมายเรียกกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์ประมาณ 4-5 คน ซึ่งทราบตัวหมดแล้ว ให้มาพบพนักงานสอบสวน เข้าสู่ขั้นตอนตามกฎหมาย หากยังฝ่าฝืนก็จะต้องมีการออกหมายจับตามขั้นตอน ซึ่งความผิดกรรโชกทรัพย์ ถือเป็นคดีอาญา มีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี และปรับเงินตามความเสียหาย หรือโทษทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดต่างกรรมต่างวาระ หากผู้เสียหาย 20 คน โทษจำคุกคนละ 5 ปี ก็อาจมีโทษจำคุกถึง 100 ปี

พล.ต.อ.วิระชัย ยังสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 3 และภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตั้งกรรมการสอบสวนกรณีข้อสงสัยว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนรู้เห็น หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับขบวนการนี้หรือไม่ หากพบจะดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาด 

ส่วนกรณีล่อซื้อเลโก้ตัวต่อโดราเอมอน 21 ตัว ที่ จ.นครสวรรค์ และมีการนัดเจรจาเพื่อขอเงินค่าปรับ จำนวน 25,000 บาท คืนจากนายพิพล โตตันติกุล ที่อ้างตัวมาจากบริษัท อนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์โดราเอมอน ปรากฏว่ากลับถูกปฏิเสธ ทั้งยังมีการพูดท้าทายให้ไปแจ้งความกลับ ล่าสุด น.ส.กนกลักษณ์ ถาวรประภาสวัสดิ์ สาวท้องแก่ ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ โดยเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุถูกรุมล้อมและพูดข่มขู่หลายอย่าง จนเกิดความกลัว และมั่นใจในตนเองว่าไม่ผิด เนื่องจากลิขสิทธิ์การ์ตูนโดราเอมอนหมดอายุไปแล้ว แต่ทำไมยังมีกลุ่มคนดังกล่าวเข้ามาอ้างสิทธิ์อีก ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน ทั้งยังสงสัยว่า กลุ่มคนดังกล่าวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ มีการรับมอบอำนาจมาจริงหรือไม่ และตนเองก็ต้องการเงินคืน เนื่องจากตนเองไม่ได้ขายโดยตรง แต่สั่งแบบพรีออเดอร์ตามที่ลูกค้าสั่งมาเป็นรายได้เสริม เพื่อหาเงินไปคลอดลูกเท่านั้น อีกทั้งเงินที่นำมาจ่ายค่าปรับก็ต้องไปขอยืมจากเพื่อน ยอมรับว่าเครียดมาก แต่หากคู่กรณีไม่มา หรือไม่ยอมคืนเงินให้ ก็จะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ต่อไป ซึ่งตำรวจเตรียมเรียกคู่กรณีมาสอบสวนในวันจันทร์นี้

สำหรับบริษัท อนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ โดราเอมอน, ชินจัง, ดรากอนบอล, โอชาเคน และแพนด้า ซี แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งในเพจของบริษัทโพสต์ไว้ตั้งแต่ปี 2553 แต่มีผู้เข้ามาโพสต์ข้อความจำนวนมากว่า ถูกเรียกจับลิขสิทธิ์โดราเอมอนหลายราย มีค่าเคลียร์ตั้งแต่ 20,000-40,000 บาท และพบว่ายังมีอีกหลายรายสอบถามว่า ลิขสิทธิ์ตัวนี้หมดสัญญาไปแล้วหรือไม่ แต่เจ้าของเพจก็ไม่มีการตอบคำถามดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด