ปัตตานี 7 พ.ย.- “เทวัญ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่วัดชายแดนใต้ พร้อมให้ความมั่นใจรัฐมีมาตรการดูแลพระสงฆ์อย่างเต็มที่ รวมถึงประชาชน เพื่อให้เกิดสันติสุข
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี สักการะรูปเหมือนหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ โดยมีนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และหัวหน้าส่วนราชการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ จากนั้นนายเทวัญ เข้ากราบนมัสการพระสุนทรปริยัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ และว่ารัฐบาลมีมาตรการดูแลพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ความมั่นคงอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศนิกชนในพื้นที่
สำหรับวัดช้างให้ ปัจจุบันมีพระสงฆ์กว่า 20 รูป และเปิดเป็นโรงเรียนนักธรรมบาลี ขณะเดียวกันเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาอย่างเนื่องจากความเลื่อมใสศรัทธาของหลวงปู่ทวด
นอกจากนี้ นายเทวัญ เดินทางไปยังวัดมุจลินทวาปีวิหาร พระอารามหลวง หรือวัดตุยง อำเภอหนองจิก วัดคู่บ้านคู่เมือง อ.หนองจิก เข้ากราบนมัสการพระสุทธิสมณวัตร เจ้าอาวาสวัดมุจลินทวาปีวิหาร และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี รวมทั้งสักการะหลวงพ่อทวดนวล หลวงพ่อดำ หลวงพ่อชุม หลวงพ่อเอี่ยม และหลวงพ่อสุข ภายในวิหารวัดเป็นที่ประดิษฐานอดีตเจ้าอาวาส
นายเทวัญ ยังพบปะประชาชนที่มารอให้การต้อนรับว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ และตนในฐานะดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะนำข้อมูลหรือปัญหาต่าง ๆ รายงานนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลผลักดันช่วยเหลือให้ชายแดนใต้เกิดสันติสุขยิ่งขึ้น ส่วนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าพระภิกษุสามเณรลดน้อยลง เช่นเดียวกับนักเรียนที่เรียนทางธรรมมะน้อยลง ซึ่งจะส่งผลต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายเพื่อจัดสรรงบประมาณให้วัดจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเชิญชวนประชาชน เยาวชนศึกษาธรรม และเกิดกิจกรรมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมภายในวัด
สำหรับภารกิจช่วงบ่ายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปสักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาลเจ้าเล่งจูเกียง จากนั้น จะได้เดินทางไปยังวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง จ.ปัตตานี เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อให้เกิดความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากพระสังฆาธิการระดับอำเภอ ระดับตำบล และพระเลขานุการ ผู้รับผิดชอบงานคณะสงฆ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา.-สำนักข่าวไทย