ชุมพร 5 พ.ย.-ลูกชายเห็นพ่อลากศพแม่ไปฝังเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะถูกขู่ฆ่า ภายหลังพี่สาวฝันเห็นแม่บ่นหนาว มาขอผ้าห่ม จึงไปคาดคั้นน้องจนยอมเปิดปาก เร่งแจ้งตำรวจคุมตัวพ่อไปชี้จุดฝังศพ
ที่ตลาดเอกชนแห่งหนึ่ง ถ.เขาเงิน เขตเทศบาลเมืองหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตำรวจ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน นำตัวนายสมบูรณ์ สุขมนตรี อายุ 52 ปี ไปชี้จุดที่ฝังศพนางบุปผา อำไพ อายุ 58 ปี อดีตภรรยา ที่พื้นที่ตลาด หลังจากนางอำพร อำไพ อายุ 24 ปี และนายสมหมาย สุขมนตรี อายุ 17 ปี ลูกของนายสมบูรณ์และนางบุปผา เข้าแจ้งความในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าแม่หายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สงสัยว่าถูกพ่อฝังศพไว้ใต้ดินในพื้นที่ตลาดแห่งนี้
นางอำพร และนายสมหมาย ให้การกับตำรวจว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่นายสมหมาย อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ พ่อมีอาชีพค้าขายและทำสวนปาล์ม ส่วนแม่เป็นแม่บ้านแต่ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ และมักมีอาการเป็นลมล้มพับอยู่เสมอ เนื่องจากไม่ค่อยกินอาหาร ก่อนที่ในช่วงค่ำของคืนหนึ่งในขณะที่นายสมหมายนอนอยู่ในบ้านตื่นขึ้นมามองออกไปนอกบ้านพบว่า พ่อกำลังลากร่างของแม่ซึ่งมีเลือดตามร่างกาย ไปฝังลงไปในหลุมใต้ต้นกระถินที่หน้าบ้าน เมื่อนายสมบูรณ์หันมาเห็นนายสมหมายกำลังมองดูเหตุการณ์ จึงข่มขู่ว่าให้เงียบไว้ห้ามบอกใครไม่งั้นจะฆ่าฝังลงในหลุมเดียวกับแม่ ด้วยความหวาดกลัวจึงปิดปากเงียบไว้ และย้ายไปอาศัยอยู่กับนางอำพรพี่สาวในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อพี่สาวถามถึงแม่ก็ให้ไปถามพ่อ ก็จะได้รับคำบ่ายเบี่ยงว่านางบุปผาไปอาศัยกับญาติพี่น้องที่ พื้นที่อื่นๆตลอดเวลา เมื่อนางอำพรไปติดตามหาที่บ้านญาติพี่น้องก็ไม่พบนางบุปผาผู้เป็นแม่แต่ประการใด
แต่นางอำพรที่มักจะออกติดตามหาแม่อยู่เสมอ เพราะคิดว่าแม่อาจจะเมาแล้วหลงทาง แต่อีกใจก็คิดว่าแม่อาจจะตายไปแล้ว เพราะในช่วงเวลา 2 ปี แม่มาเข้าฝันว่าหนาว อยากได้ผ้าห่มอยู่หลายครั้ง จึงมั่นใจว่าแม่ตายแล้ว และเมื่อสอบถามนายสมหมายน้องชายก็มักมีพิรุธเสมอ จนเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้คาดคั้นนายสมหมายอีกครั้ง พร้อมทั้งเล่าความฝันที่แม่มาบอกให้น้องชายฟัง นายสมหมาย จึงยอมรับว่าเห็นนายสมบูรณ์ผู้เป็นพ่อฝังศพแม่ไว้ใต้ต้นไม้ริมป่าละเมาะหน้าบ้านเช่าในสมัยนั้น พร้อมข่มขู่ไม่ให้บอกใคร
จากนั้นทั้งคู่จะตัดสินใจกันไปแจ้งความ ตำรวจได้ออกสืบสวนหาข่าวทันทีพบว่านายสมบูรณ์ยังคงพักอาศัยที่บ้านไม่มีเลขที่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงได้ไปนำตัวนายสมบูรณ์ สอบปากคำอยู่นานหลายชั่วโมง จนรับสารภาพว่าได้ฝังศพของนางบุปผาจริงเนื่องจากนางบุปผามีอาการเป็นลมและเสียชีวิตทันที ด้วยความตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจฝังร่างของนางบุปผาไว้ใกล้กับบ้านที่พักอาศัย ต่อมาได้ย้ายออกไปอยู่บ้านอีกหลังไม่ไกลจากบ้านหลังเดิม และทำมาหากินมาตลอด 2 ปี ตำรวจพาตัวไปชี้จุดที่ฝังศพ แต่เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุถูกสร้างเป็นตลาดแล้ว จึงจำจุดที่แน่นอนไม่ได้ จำได้ว่าเป็นจุดที่สร้างห้องน้ำของตลาดในปัจจุบัน ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของนายสมบูรณ์จะได้สอบปากคำให้ชัดเจนก่อนจะดำเนินการขุดเพื่อหาศพต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านในย่านดังกล่าว เล่าว่า เคยมีผู้ที่ทำโทรศัพท์หายและให้บริษัทเจ้าของเครือข่ายทำการวัดหาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ พบว่าสัญญาณอยู่ในจุดใต้ต้นกะถิน เมื่อเข้าไปพบว่ามีร่อยรอยการขุดและฝังกลบ พร้อมทั้งมีกลิ่นเหม็นออกมา เมื่อเดินข้ามหลุมในจุดนั้นรู้สึกขนลุกซู่ ทำให้รู้สึกกลัว แต่ไม่ได้คิดว่าจะมีศพถูกฝังไว้ จนกระทั่งจุดดังกล่าวและต้นกะถินถูกรื้อสร้างเป็นห้องน้ำของตลาด แต่เคยสอบถามนายสมบูรณ์ถึงนางบุปผาผู้เป็นภรรยา มักจะได้รับคำตอบว่าย้ายไปอยู่กับญาติพี่น้องแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนตำรวจมาสอบถามในวันนี้.-สำนักข่าวไทย