กระทรวงคลัง 1 พ.ย. – คลังจับมือภาคอสังหาฯ 3 สมาคม จัดแคมเปญกระตุ้นยอดซื้อ แนะหารือ ธปท. ผ่อนเกณฑ์วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ธอส. ซื้อบ้านเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ลุ้นค่าธรรมเนียมโอนมหาดไทย-กฤษฎีกา 3 สมาคมอสังหาฯ ยอมรับมาตรการรัฐช่วยหนุนให้ทรงตัว
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า หารือผู้บริหารธนาคารอาคารสงเคราะห์ ผู้บริหารสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, สมาคมอาคารชุดไทย , สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดเล็ก กลาง ขนาดใหญ่ เพื่อผลักดันให้มาตรการอสังหาริมทรัพย์ฯ และช่วยระบายสต๊อกคงค้างของผู้ประกอบการไม่ให้ทรุดตัวลงไปมากกว่าปัจจุบัน ภาคเอกชนขอให้กระทรวงการคลังประสานกระทรวงหาดไทย เรื่องประกาศลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา การขอให้กระทรวงการคลังประสานกัน ธปท.ผ่อนปรนกฎเกณฑ์ LTV เฉพาะกลุ่มของสินค้าซื้อบ้านจาก ธอส. วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อให้ขอกู้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบ้าน ไม่เกิน 3 ล้านบาท
“คลังเตรียมร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ฯ เตรียมจัดแคมเปญใหญ่โค้งสุดท้ายปลายปี เพื่อให้ผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นใหญ่ ลด แลก แจกแถม ผ่านโครงการของรัฐร่วมกันในช่วงเดียวกัน หวังระบายบ้านค้างสตอก 35,000 ยูนิต การออกมาตรการครั้งนี้ คาดว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ฯ ในช่วงไตรมาส 4 จะไม่ทรุดตัวมากตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดการณ์ว่า ภาคอสังหาฯ ยังขยายตัวได้ร้อยละ 5 – 7 ในปี 2562 เพราะกลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีสัดส่วนในตลาดถึงร้อยละ 60 ของอสังหาฯทั้งระบบ” นายชาญกฤช กล่าว
หลังจาก ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าจดทะเบียนจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย และการจดทะเบียนการโอน และการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยต้องดำเนินการในคราวเดียวกัน โดยมีระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 รวมทั้งมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดอกเบี้ยพิเศษ 2.5% คงที่ในช่วง 3 ปีแรก วงเงิน 50,000 ล้านบาท
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า เมื่อภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดแคมเปญใหญ่ บวกกับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐเพื่อช่วยเหลือครั้งนี้ จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมหลายด้านทั้งเฟอร์นิเจอร์ ภาคก่อสร้าง การตกแต่งภายใน และอีกหลายสาขา ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น จึงคาดว่ายอดยอดอสังหาฯ จากปีก่อน 196,000 ยูนิต จากมาตรการรัฐส่งเสริม 35,000 ยูนิต จากคาดการเดิม 175,000 ยูนิต จะทำให้มียอดขายประมาณ 210,000 ยูนิต ใกล้เคียงกับปีก่อน
นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ สมาคมอาคารชุดไทย ยอมรับว่าที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมชะลอตัวร้อยละ 20 บ้านจัดสรรลดลงเล็กน้อย เมื่อมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯออกมา จะช่วยพยุงให้กลุ่มอสังหาฯไม่ทรุดตัวไปมากตามที่กังวล และการซื้อบ้านจะไม่เหมือนกับการซื้อสินค้าทั่วไป เพราะกว่าจะโอนได้ต้องอีกหลายขั้นตอน ยอดการโอนบ้านจากการซื้อขายในช่วงปลายปี จะไปทำนิติกรรมได้ในเดือนมกราคม นับว่าเป็นผลบวกทางจิตวิทยาให้ภาคอสังหาฯดีขึ้น . – สำนักข่าวไทย