ยกระดับมาตรการ รปภ.สูงสุด รับ ASEAN SUMMIT 2019

กทม. 31 ต.ค.-มาตรการดูแลความปลอดภัยสูงสุดในการประชุมอาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 35 ทั้งตรวจสอบยานพาหนะ บุคคล และสิ่งของที่จะผ่านเข้าพื้นที่จัดงาน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย รวมทั้งการสแกนโลหะตรวจหาวัตถุระเบิด และซ้อมแผนรองรับเหตุป่วน

วันแรกของการประชุมสุดยอดอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 35 ที่เปิดฉากด้วยการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี council ครั้งที่ 18 ซึ่งมีรัฐมนตรีเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียนทุกประเทศเข้าร่วม ท่ามกลางมาตรการดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุดทั่วทั้งอิมแพ็ค เมืองทองธานี สถานที่จัดงานครั้งนี้ รวมทั้งพื้นที่โดยรอบ

เริ่มตั้งแต่รถที่เข้างานทุกคันต้องมีบัตรประจำตัวผ่านเข้างาน ก่อนเข้าพื้นที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจอย่างละเอียด ทั้งภายในรถ ท้ายกระโปรง ใช้เครื่องสแกนระเบิดใต้ท้องรถ ทุกคันต้องได้รับการตรวจ ไม่มียกเว้น


เมื่อจอดรถแล้วจะมีรถชัตเทิลบัสรับส่งไปยังอาคารที่ใช้จัดประชุม เมื่อผ่านเข้าไปในอาคารจะมีการตรวจบัตรโดยเครื่องสแกนว่าใบหน้าเราตรงกับบัตรประจำตัวที่ห้อยคอหรือไม่ จากนั้นจะต้องผ่านการตรวจด้วยเครื่องสแกนโลหะและอาวุธ ก่อนเข้าสู่พื้นที่งาน

วันนี้พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาทดสอบระบบการตรวจสอบความปลอดภัยตั้งแต่เช้า และอยู่บัญชาการในพื้นที่ตลอดทั้งวัน ยืนยันความพร้อม 100% และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหาใดๆ แต่สั่งการเตรียมพร้อมตลอดเวลา ส่วนกรณีมี ส.ส. ออกมาระบุว่าทราบข่าวมีผู้ไม่หวังดีเตรียมเคลื่อนไหว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการข่าว แต่ไม่ประมาท เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว  รวมทั้งสร้างเครือข่ายประชาชนร่วมกันดูแล แจ้งเบาะแสหากพบเหตุที่อาจเป็นภัยคุกคาม

สำหรับการจราจรจนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหา เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเกือบเดือน ส่วนการประชุมใหญ่ที่ตรงกับช่วงวันหยุด คาดว่ารถจะน้อยลง โดยจะปิดการจราจรเฉพาะช่วงที่ขบวนผู้นำผ่านเท่านั้น พร้อมแนะนำประชาชนหากจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาโดยรอบพื้นที่การประชุม หรือพื้นที่ชั้นใน หลีกเลี่ยงการใช้รถส่วนตัว แต่ให้ใช้ระบบขนส่งมวลชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดี ได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท