กกต. 31 ต.ค.-ผลสะท้อนจากตัวแทนพรรคการเมืองกฎหมายการทำไพรมารีโหวต ปัญหาของพรรคการเมือง ใช้เงินมาก ด้าน รองเลขาธิการ กกต.ยอมรับปัญหาการทำไพรมารีดำเนินการยาก แต่เมื่อกฎหมายกำหนด พรรคการเมืองจำเป็นต้องทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง จัดอภิปรายเรื่อง “ไพรมารีโหวตกับการเมืองแบบไทย ๆ พรรคไหนไป พรรคไหนอยู่” โดยมีนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายทรรศนัย ทีน้ำคำ รองหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยมีนายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
นายนิพิฏฐ์ กล่าวยอมรับระบบไพรมารีโหวต พรรคนำมาเลือกหัวหน้าพรรคนั้นทำให้พรรคพัง และเห็นว่าควรแก้ไขกฎหมายนี้ เพราะกฎหมายนี้เปรียบเป็นการใส่สูทแต่นุ่งโสร่ง ตั้งข้อสังเกตการทำไพรมารีในสาขา ในฐานจำนวนสมาชิก 50 คน ซึ่งถือว่าน้อยที่จะเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง
“พรรคประชาธิปัตย์ทำโพลว่าบุคคลใดในพื้นที่ได้รับความนิยมจากประชาชนก่อนทำไพรมารี นี่คือการเมืองยุค 4.0 แต่กฎหมายกลับย้อนยุค สะท้อนถึงการทำไพรมารีกรณีผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชี 150 คน ให้สาขาและตัวแทนจังหวัดโหวตเลือก อาจทำให้บุคคลที่มีชื่อเสียง มีประวัติการทำงานระดับสูง ไม่ได้รับเลือกให้อยู่ในลำดับต้น ๆ โดยยกตัวอย่าง คนภาคใต้จะเลือกคนภาคอีสานหรือไม่ เพราะไม่เป็นที่รู้จัก สำหรับต่างพื้นที่ที่อยู่ พรรคการเมืองไม่ต้องการทำไพรมารีโหวต ส่วนตัวเชื่อว่าหากไม่มีไพรมารีโหวต พรรคการเมืองจะเติบโตได้มากกว่า แต่เมื่อกฎหมายกำหนด แต่ละพรรคการเมืองก็ต้องปฏิบัติตาม แม้จะมีข้อจำกัดของกฎหมาย” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ด้าน นายแสวง กล่าวว่า ระบบไพรมารีมีเป้าหมาย เพราะต้องการให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน แต่การทำอาจไม่ได้ง่าย ทั้งการตั้งสาขา หรือตัวแทนประจำจังหวัด ทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคมีเวลาเตรียมตัวน้อย ยอมรับ กกต.เห็นปัญหาการทำไพรมารีที่มีความยากในการดำเนินการ แต่กฎหมายพรรคการเมืองเรื่องระบบไพรมารีได้ออกแบบเพื่อให้กลไกของบ้านเมืองดีในการปฏิรูปการเมือง ให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีอำนาจในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ไม่เพียงออกแบบเพื่อพรรคการเมืองเท่านั้น
“อะไรที่เป็นกฎหมาย กกต.พร้อมสนับสนุนทุกเรื่อง และเชื่อว่าพรรคการเมืองสามารถทำหลักการให้ดีได้ โดยเริ่มตั้งแต่การตั้งสาขา และตัวแทนประจำจังหวัด” นายแสวง กล่าว
นายแสวง กล่าวด้วยว่า ส่วนการจัดการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 เพราะเป็นวันหยุดสุดท้ายที่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ซึ่งหากจัดหลังจากนั้น การเลือกตั้งส่อเป็นโมฆะ ส่วนการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กกต.ย้ำดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่นายทรรศนัย รองหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ในฐานะผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ตั้งคำถามว่า บริบทการเมืองและการเลือกตั้งของไทย ควรทำไพรมารีโหวตหรือไม่ นอกจากนี้ยังเห็นว่าการทำไพรมารีโหวต พรรคต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งบางพรรคการเมืองได้รับผลกระทบเรื่องนี้ จนต้องไปกู้เงินเพื่อที่จะดำเนินการกิจการของพรรค ตั้งสาขาและตัวแทนพรรค.-สำนักข่าวไทย