ปฏิรูปแรงงานคุณภาพรองรับอีอีซี

กทม. 28 ต.ค. – “สมคิด” ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัย ปฏิรูปหลักสูตรการเรียน การสอน พัฒนาแรงงาน รองรับผู้ประกอบการในเขตอีอีซี 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ  เรื่องการผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เนื่องจากกระแสโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก การศึกษาจึงก้าวข้ามไปจากการเรียนในปัจจุบันอย่างมาก  ทุกคนหาความรู้ได้จากโซเชียล  หลายสาขาในต่างประเทศต้องการเน้นงานวิจัยและพัฒนามาใช้พัฒนาสินค้า และเริ่มมีสัดส่วนสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในองค์กร หากไทยไม่ปรับตัวจะไม่มีนักลงทุนเข้ามาขยายการลงทุน เช่น จีน ได้ใช้เมืองเซินเจิ้นเป็นโมเดลพัฒนาแรงงานคุณภาพ เมื่อได้ผลดีจึงเตรียมขยายไปยังมณฑลต่าง ๆ ทั่วจีน ไทยจึงต้องปรับตัวด้วยเช่นกันพัฒนาแรงงานให้ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน ไม่ต้องห่วงเรื่องปริญญาตรี โท เอก เหมือนที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาแรงงานให้ตรงกับองค์กรที่ต้องการ 


นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า การหารือร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั้งประเทศครั้งนี้ เพื่อร่วมกับปฏิรูป พัฒนาหลักสูตรกับภาคเอกชน รองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพราะจากนี้ไปการลงทุนของภาคเอกชน ไม่ใช่แรงจูงใจด้านภาษีสำหรับส่งเสริมการลงทุน แต่กลับเป็นแรงงานคุณภาพที่ต้องผลิตให้ตรงกับความต้องการของเอกชนในยุคดิจิทัล ระบบการเรียน การสอน จึงต้องทบทวนกันใหม่ทั้งหมด ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมส่งเสริมมาตรการแรงจูงใจด้านอื่นให้เอกชนมาร่วมลงทุนกับสถาบันการศึกษามากขึ้น เพราะแรงงาน 38 ล้านคน ได้รับผลกระทบต้องปรับตัวมารองรับให้ตรงจุด ทั้งภาคเอกชนและภาคบริการ สำหรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ต้องการแรงงาน 400,000-500,000 คน ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันยกระดับแรงงานไทย 

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมร่วมกับสถาบันการศึกษาพัฒนาหลักสูตร Non Degree มุ่งเน้นความต้องการแรงงานจากภาคเอกชนเป็นหลัก แทนการสร้างค่านิยม ได้วุฒิการศึกษาปริญญาตรี โท เอก ด้วยการส่งพนักงานในบริษัท หรือร่วมกับสถาบันการศึกษาคัดเลือกบุคคลเข้ามาร่วมการฝึกอบรม เนื่องจากเศรษฐกิจยุคใหม่ ภาคเอกชนต้องการแรงงานที่เปลี่ยนไปมาก จนต้องตั้งสถาบันฝึกอบรมขึ้นมาเอง เพื่อเรียนจบการันตีทุกคนมีงานทำร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะนี้เริ่มต้นสาขาหุ่นยนต์ เทคโนโลยีอาหาร สุขภาพ ต่อไปจะขยายไปยังภาคอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ด้านดิจิทัล การบิน อุตสหากรรมแนวใหม่แห่งอนาคต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ

ระทึก! เรือคณะนายอำเภอคว่ำ ขณะช่วยผู้ประสบภัย

กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ เรือคณะนายอำเภอฮอดพลิกคว่ำ ขณะฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าไปช่วยผู้ประสบภัย ขณะที่จุดอื่นในเชียงใหม่ เร่งอพยพประชาชนที่ยังตกค้าง