พาณิชย์เตรียมแถลง กรณีสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ไทย 28 ต.ค.นี้

กรุงเทพฯ 26 ต.ค.-กระทรวงพาณิชย์ เตรียมแถลงข่าว  กรณีสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP สินค้าไทย 28 ต.ค.นี้ ขณะที่ภาคเอกชนไทย ยอมรับ ยังงงคำประกาศของสหรัฐ ตัดสิทธิ GSP ไทยเพิ่ม  พร้อมย้ำรับมือหาตลาดใหม่ทดแทน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐหรือ USTR  ได้ออกประกาศว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามประกาศระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือ GSP กับสินค้าของไทยเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 39,650 ล้านบาทโดยระบุว่าไทยล้มเหลวในการจัดสิทธิ์ที่เหมาะสมให้กับแรงงานตามหลักสากลนั้นโดยสินค้าไทยที่อยู่ในการที่จะถูกตัดสิทธิ GSPตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2563 จะมีถึง 573 รายการ ครอบคลุมทั้งของกินและของใช้ตั้งแต่อาหารทะเล ผักและผลไม้ เมล็ดพันธุ์ น้ำเชื่อมและน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง น้ำผักและผลไม้ ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องครัว ประตูหน้าต่าง ไม้อัดและไม้แปรรูป เครื่องประดับ แผ่นเหล็ก และสแตนเลส เป็นต้น 


ล่าสุดในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้แจ้งกับสื่อมวลชนเตรียมแถลงข่าว เรื่อง กรณีสหรัฐ ตัดสิทธิ GSP ไทยในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2562 เวลา 10.30 น. ที่ กรมการค้าต่างประเทศ

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุ สาเหตุที่แท้จริงการตัดสิทธิ์ GSP ครั้งนี้  เป็นการตอบโต้ทางการไทย ที่สั่งแบน สารพิษ ซึ่งสหรัฐได้ทักท้วง โดยสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยแล้วก่อนหน้านี้   สำหรับทางออกต่อกรณีดังกล่าวนั้น   รัฐบาลเตรียมใช้เวทีการประชุมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการประชุมอาเซียนซัมมิท ในไทย ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย.นี้  ซึ่งจะมีเวทีคู่ขนาน และจะมีตัวแทนจากทางการสหรัฐร่วมประชุม  เพื่อเจรจาแก้ปัญหาต่อไป

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี สถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทย เรื่องขอให้ทบทวนการแบน สารเคมีภาคเกษตร  จะส่งผลกระทบอย่างไร  ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ส่งมายังกระทรวงพาณิชย์ โดยที่ตนได้นำเอกสารดังกล่าว ส่งต่อไปยังกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของกระทรวงอุตสาหกรรม นำไปพิจารณาแล้วว่า จะมีผลกระทบอย่างไร คงต้องรอผลการพิจารณาของกรมการค้าต่างประเทศอีกครั้ง


“ทั้งนี้สิ่งที่เขาแจ้งมาในหนังสือดังกล่าว คือ เขามีความเป็นห่วงว่าต้นทุนการใช้ยาตัวใหม่จะแพงขึ้น ซึ่งตัวเลขเฉลี่ยนั้นเขาอ้างว่าตัวเลขเป็นแสนล้าน และเขายังห่วงว่าสินค้าทางการเกษตรบางอย่างของเขาจะมีปัญหาในการนำเข้ามาในไทย  ดูเหมือนว่าเขาแสดงความเป็นห่วงประเทศเรา แต่ก็ชัดเจนว่าเขาเองก็เป็นห่วงประเทศเขา ดังนั้นตนเองยังตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ก็ต้องพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมายของเราด้วย” นายจุลินทร์กล่าว

น.ส.กัณญภัค  ตันติพิพัฒน์พงค์ ประธานสภา ผู้ส่งทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) กล่าวถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐลงนามคำสั่งยกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป(จีเอสพี) แก่ประเทศไทยหลายรายการสินค้า รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารทะเล โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน หลังจากรัฐบาลไทยล้มเหลว ยกระดับสิทธิแรงงานให้เท่าเทียมมาตรฐานโลกนั้น เรื่องนี้ ภาคเอกชนก็ยังสับสนและงงต่อคำประกาศของผู้บริหารสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ไทยถูกปรับอันดับจากเดิมเคยได้อยู่เทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 เมื่อกลางปี 61 ที่ผ่านมา เห็นว่าไทยได้แก่ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การจะปรับฐานะไทยขึ้นมาอยู่ในกลุ่มเทียร์ 1 ที่สหรัฐจะเน้นให้เฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น จึงไม่แน่ใจว่าสหรัฐจะประกาศปรับลดอันดับไทยลงเป็นเทียร์ 3 หรืออะไรยังไม่ทราบด้วยเหตุผลที่แท้จริงได้

อย่างไรก็ตาม คงจะต้องขอเวลาศึกษาคำประกาศของสหรัฐก่อนว่าจะตัดสิทธิจีเอสพีของไทยในกลุ่มสินค้าอะไรบ้าง แต่เท่าที่ได้เห็นเบื้องต้นน่าจะกระทบต่อกลุ่มสินค้าประมงของไทยพอสมควร และคงต้องติดตามดูว่าตัวผู้บริหารของสหรัฐจะประกาศปรับเปลี่ยนอะไรอีกหรือไม่ในที่ให้เวลาไทยอีก 6 เดือนในการตัดสิทธิจีเอสพี คงต้องตามดูกันต่อไป และกลุ่มสินค้าประมงของไทยคงต้องปรับตัวหาช่องทางอื่นในการทำตลาดกันต่อไป

นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ทางหอการค้าไทยทราบเรื่องที่สหรัฐได้ประกาศตัดสิทธิจีเอสพีต่อไทยแล้ว ภาคเอกชนขอเวลาศึกษาในรายละเอียดของคำประกาศดังกล่าวให้ชัดเจนอีกครั้งว่าจะปรับตัวรับผลกระทบดังกล่าวอย่างไรดี และจะต้องดูว่าผู้ประกอบการที่เข้าข่ายถูกตัดสิทธิเป็นบริษัทของคนไทยหรือประเทศอะไรที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยกันแน่ คาดว่าจะทราบผลที่ชัดเจนในเร็วๆนี้

“ทั้งนี้ อยากฝากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อสหรัฐให้เวลาไทย 6 เดือนก่อนถูกตัดสิทธิ์ จึงอยากให้ทุกหน่วยงานช่วยไปเจรจาเรื่องนี้ให้กับภาคเอกชนด้วย “นายกลินท์กล่าว

นายพจน์  อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง กล่าวว่า สมาคมฯขอเวลาศึกษารายละเอียดในคำประกาศของสหรัฐให้ชัดเจนก่อน แต่เข้าใจว่าในส่วนกลุ่มอาหารทะเลที่เกี่ยวข้องกับคำประกาศสหรัฐน่าจะอยู่ในกลุ่มประเภท ปลาและปลาหมึกเป็นหลัก ดังนั้น คำประกาศของสหรัฐนี้ถือเป็นเรื่องวิบากกรรมของสินค้าไทยในกลุ่มนี้ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาคการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบหลายด้านทั้งค่าแรง ค่าเงินบาทที่แข็งค่า แต่ที่ผ่านมาภาคการส่งออกของไทยก็ปรับตัวมาตลอดหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดเก่าอยู่แล่ว.-สำนักข่าวไทย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]