Private Sector Plans Measures to Fights PM2.5

BANGKOK, Oct 25  (TNA) — Thailand Business Council for Sustainable Development (TBCSD) is seriously fighting against particulate matter that is 2.5 micrometers or less in diameter (PM2.5).

TBCSD and the Thailand Environment Institute (TEI) organized a discussion on the cause of PM2.5 and solutions as the air pollution in Thailand is expected to seasonally worsen from December to March.


Air pollution specialist Dr Supat Wangwongwatana said PM2.5 resulted from the combustion of diesel engines and the outdoor burning of biomass and its levels would rise when air was stagnant.

He recommended the use of diesel with up to 10ppm of sulfur instead of that with 50ppm of sulfur. He said the measure could reduce the emission of PM2.5 by 15-20%. He also recommended natural gas in pace of diesel fuel.


Besides, he demanded the private sector stop using vehicles with black smoke and the government seriously enforce the Euro 6 emission standard and limit the time when big trucks enter urban areas.

TEI president Dr Wijarn Simachaya said his institute would urge the private sector to maintain the engines of their vehicles regularly, develop the road safety mindset of drivers, use bio-based fuel or natural gas when PM2.5 levels were unsafe, and campaign against the use of diesel vehicles in inner Bangkok.

TEI would also educate general people on PM2.5, he said. (TNA)


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

“สีหศักดิ์” ฟาดกัมพูชากลางเวที UNGA รับบทเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นิวยอร์ก 28 ก.ย.-“สีหศักดิ์” ฟาดกลับกัมพูชา กลางเวที UNGA แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ละเมิดข้อตกลงไม่หยุดหย่อน บิดเบือน-ล้อเลียนความจริง ชี้ ทหารที่เสียขา เด็ก และปชช.ผู้บริสุทธิ์ คือเหยื่อที่แท้จริง ลั่น! บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เป็นอธิปไตยไทยแต่กัมพูชารุกล้ำ ย้ำไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอด ถามกลับกัมพูชาจะเลือกเส้นทางเผชิญหน้าหรือเส้นทางสันติภาพ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก โดยนายสีหศักดิ์ ได้ย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ และภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และย้ำความสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมเสนอว่า ควรมีการพัฒนาระบบสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประเทศกำลังพัฒนาด้วย นายสีหศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสรุปและแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เป็นผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ 2 ประเทศ เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ ”ครอบครัวอาเซียน” […]

คึกคัก! เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ทยอยใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า

ศรีสะเกษ 28 ก.ย. – บรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ที่อำเภอขุนหาญ เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า แม้จะมีความกังวลเรื่องความไม่สงบ แต่ส่วนใหญ่ยืนยันต้องการทำหน้าที่ของตนเอง เวลา 08.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 ศาลาวัดบ้านจะเนียว เจ้าหน้าที่ได้ประกาศความพร้อมและทำการเปิดหีบเลือกตั้ง มีประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มารอตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบ ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ตำรวจ อส. และ รด.จิตอาสา คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า แม้จะรู้สึกกังวล แต่ก็เชื่อมั่นในการจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐ และตั้งใจมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งที่หน่วยดังกล่าวด้วย สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอขุนหาญและภูสิงห์ เปิดให้ประชาชนมาใช้สิทธิลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน กกต. 1444 . – 716. – สำนักข่าวไทย

ลำน้ำปิงเช้านี้ลดระดับต่ำกว่าจุดวิกฤติ หลังขึ้นสูงสุดเกือบ 4 ม.

28 ก.ย.- เมืองเชียงใหม่ยังปลอดภัยจากน้ำท่วม เช้านี้ลำน้ำปิงลดระดับต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือน หลังขึ้นสูงสุดเกือบ 4 เมตร ชาวบ้านโล่งใจ หวั่นเจอน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดระดับลงแล้วในเช้าวันนี้ หลังจากที่ระดับน้ำปิง บริเวณจุดตรวจวัดระดับน้ำพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ขึ้นสูงสุดถึง 3 เมตร 93 เซนติเมตรตั้งแต่ช่วง 4 ทุ่มจนถึงเที่ยงคืนที่ผ่านมา สูงกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ 3 เมตร 70 เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าพนังกั้นน้ำที่รับได้ถึงระดับ4เมตร 20 เซ็นคิเมตร ก่อนจะเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยชั่วโมงละ7-8 เซ็นติเมตร หลังน้ำทางตอนเหนือลดลงและไม่มีฝนเติมลงมา จนเช้านี้ (07.00 น.) ระดับปิง ที่จุดวัดพี1 อยู่ที่ 3 เมตร 56 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนแล้ว ท่ามกลางความโล่งใจของขาวเชียงใหม่ ซึ่งบางส่วนกังวลจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว น้ำปิงขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 5 เมตร 30 เซนเมตร จนน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ถึง […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]