กทม.22 ต.ค.- ตำรวจแจงยิบประเด็นรถหรู “หนิง ปณิตา” แจ้ง 3 ข้อหา จ่อแจ้งเพิ่มแต่ขอตรวจสอบรายละเอียดรถหรูให้ชัดเสียก่อน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ตำรวจจราจร สน.วิภาวดี จับกุมนางปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือ หนิง ปณิตา ดารานักแสดงสาวขณะขับรถยนต์ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้า ช่วงเช้าวานนี้ (21 ต.ค.) ต่อมาดาราสาวโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ส่วนตัว ในเชิงวิจารณ์การทำงานของตำรวจราจร ว่ามีการถ่วงเวลาคล้ายจะเรียกรับผลประโยชน์ ก่อนที่จะมีการแชร์โพสต์ต่อกันอย่างมาก
เหตุการณ์ดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ให้ พ.ต.ท.พันษา อมราพิทักษ์ รองผู้กำกับจราจร สน.วิภาวดี ชี้แจง โดยระบุว่า ตำรวจยศสิบตำรวจโท ได้เรียก หนิง ปณิตา หยุดรถ หลังขับรถทับเส้นทึบบนถนนวิภาวดีฯ ก่อนจะแจ้งข้อหาพร้อมเขียนใบสั่ง แต่เนื่องจากตำรวจนายดังกล่าวไม่รู้จักยี่ห้อรถมาเซราติ คันดังกล่าว จึงเดินตรวจสอบรอบตัวรถ และสอบถามดาราสาว เนื่องจากเกรงว่าจะกรอกข้อมูลในใบสั่งผิดพลาด เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้น รถยนต์คันดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายวงกลมภาษีขนส่งทางบก และผู้ขับขี่ไม่พกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ต่อมาเมื่อตรวจสอบฐานข้อมูลพบว่า แผ่นป้ายทะเบียนรถที่ดำเนินการออกใบสั่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อ BMW ขาดต่อภาษีขนส่งทางบกเมื่อปี 2561 ส่วนใบอนุญาตขับขี่ของดาราสาว ตามฐานข้อมูลพบว่าขาดต่ออายุอนุญาตเมื่อปี 2557 โดยรอการยืนยันจากกรมการขนส่งทางบกอีกครั้งว่าข้อมูลในฐานระบบตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร
ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้ จะตรวจสอบตัวรถหรูที่ดาราสาวใช้ในวันเกิดเหตุว่า ผ่านขั้นตอนทางศุลกากรและมีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ ส่วนการเรียกตรวจสอบรถคันดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จากนี้จะต้องตรวจสอบในหลายประเด็น ทั้งตัวทะเบียนรถยนต์ที่นำมาสวมว่ามีการต่อภาษีแล้วหรือไม่ เพราะเป็นไปได้เช่นกันว่าอาจมีการต่อภาษีแล้ว และนำแผ่นป้ายภาษีอันเก่ามาใช้กับรถมาเซราติ เพราะจะมีผลในการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เนื่องจากหากรถหรูคันดังกล่าวไม่ผ่านขั้นตอนทางศุลกากร หรือไม่ผ่านการจดทะเบียจากกรมการขนส่งทางบก ก็จะมีโทษหนัก แต่หากรถคันดังกล่าวผ่านขั้นตอนศุลกากรและผ่านการจดทะเบียนแล้ว แต่อยู่ระหว่างรอการดำเนินการ และนำป้ายทะเบียนรถคันอื่นที่ตนเป็นเจ้าของมาติดโทษก็จะเบากว่ามาก ซึ่งยังต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้แจ้งไปแล้ว 3 ข้อหา คือ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร, ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และไม่ชำระภาษีรถยนต์ประจำ ทราบว่าดาราสาวส่งตัวแทนไปชำระค่าปรับ แต่เนื่องจากเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา ต้องให้ผู้กระทำผิดมาเป็นผู้ชำระเอง จึงไม่สามารถรับชำระได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ 3 ข้อหานี้ ดาราสาวยังสามารถชำระได้อีกหลายช่องทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ เช่น การชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือการชำระผ่านธนาคารกรุงไทย
พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจราจร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอาคืนดาราสาวกรณีโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ ส่วนจะมีการดำเนินการแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ขอพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย