ลุ้นกลุ่มซีพีประมูลสร้างสนามบินอู่ตะเภา

นครกวางโจ  21  ต.ค. – ลุ้นกลุ่มซีพีร่วมประมูลสร้างสนามบินอู่ตะเภา หลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินนัดสุดท้าย 7 พ.ย. อีอีซีพร้อมมอบพื้นที่ก่อสร้าง หลัง รฟท.ลงนามสัญญาสร้างรถไฟฟ้ากับกลุ่มซีพี 24  ต.ค.   


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์และพันธมิตร (CPH) แจ้งกำหนดการลงนามสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภา ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกลุ่มซีพีเนื่องจากเห็นว่าเป็นวันที่มีฤกษ์งามยามดี  เมื่อลงนามแล้วขั้นตอนก่อสร้างจะเริ่มเดินหน้าชัดเจน อีอีซีจึงเตรียมการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ทันตามกำหนด นับว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในเขตอีอีซีคืบหน้ามาก ทั้งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน การสร้างสนามบินอู่ตะเภา จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับแผนก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาให้นำเอกสาร 2 กล่องเข้ามาพิจารณาร่วมในขั้นตอนการประมูลหรือไม่ จากเอกสารทั้งหมด 10 กล่อง แต่กลุ่มซีพีส่งเอกสารมาให้คณะกรรมการคัดเลือกล่าช้าไม่ทันกำหนด  2 กล่อง คณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาแล้วระบุว่ารับได้เพียง 8 กล่อง อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดระบุว่าให้นำเอกสาร 2 กล่องกลับเข้ามาพิจารณาได้ ศาลปกครองสูงสุดจึงเตรียมออกนั่งบัลลังก์พิจารณาตัดสินวันที่ 4 หรือวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 การพิจารณาคดีครั้งสุดท้ายกรณียื่นประมูลก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา นับว่ากลุ่มซีพียังอยู่ในขั้นตอนการเสนอราคาก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเข้าสู่กระบวนการร่วมการประมูลได้ หากรายใดชนะประมูลเดินหน้าก่อสร้างสนามบินต่อ หากศาลตัดสินว่าซีพีเข้าร่วมไม่ได้ถือว่าซีพีสอบตก จะเหลือเอกชน 2 รายเข้าร่วมการประมูล เมื่อนำเอกสารมาร่วมพิจารณาด้วยกันทั้งหมด 


ทั้งนี้ คาดว่าใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียวจะเสร็จ  เมื่อเอกชนทุกรายผ่านการพิจารณาทางเทคนิค คุณสมบัติถูกต้องร้อยละ 80 จะร่วมแข่งขันประมูลราคาได้  คาดว่าปลายเดือนพฤศจิกายนจะลงนามร่วมกับภาคเอกชนผู้ชนะการประมูลได้ เนื่องจากอัยการร่างสัญญาเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ยอมรับว่าการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาไม่น่าห่วงมากเท่ากับการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพราะต้องส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างกรุงเทพฯ ชั้นใน และจุดตัด 230 จุด ต้องรีบแก้ไข โยกย้าย และภาครัฐเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างหลัก  ส่วนสนามบินอู่ตะเภาเป็นพื้นที่ว่างเปล่า 6,500 ไร่ในพื้นที่เดียวกัน มูลค่าลงทุน 290,000 ล้านบาท สามารถส่งมอบได้ทันที และการสร้างสนามบินเป็นการลงทุนของภาคเอกชน จึงไม่น่าห่วงเรื่องแผนก่อสร้าง  

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเผยว่ากรณีศาลให้ทุเลาการบังคับด้วยการให้คณะกรรมการคัดเลือกโครงการ ยอมรับเอกสารซอง 2 กล่องที่ 6 และซอง 3 กล่องที่ 9 ของกลุ่มซีพีและพันธมิตรเอาไว้พิจารณา เนื่องจากเป้าหมายหลักของการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุ พ.ศ.2560 ทุกโครงการเป็นต้นไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่รัฐ จึงต้องเปิดให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม  การปฏิบัติต่อผู้ประกอบการเท่าเทียม มีหลักเกณฑ์หลักปฏิบัติต่าง ๆ ที่ชัดเจน และตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุน (PPP ) 2562  เงินลงทุนโครงการ ขนาดใหญ่มากกว่า 5,000 ล้านขึ้นไป ให้อำนาจศาลปกครองกำหนดวิธีชั่วคราวเพื่อบรรเทาทุกข์แก่คู่กรณี เพื่อให้เป็นไปตามหลักการสำคัญคือรักษาประโยชน์สูงสุดให้รัฐ    

เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ย่อมมีการยื่นเอกสารจำนวนมาก  ต้องแจ้งรายละเอียดให้ชัดเจน  ส่วนการอ้างว่าการขนเอกสารที่มีปัญหา ผ่านจุดลงทะเบียนช่วงเวลา  15.09 น. เป็นหลักฐานภาพนิ่งที่ปรากฎออกมาหลังจากวันปิดรับซองแล้ว  และศาลพิจารณาว่าเวลา 15.09 น. ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เอาไปใช้พิจารณาว่า เกิดข้อบกพร่องในการยื่นซอง “คำสั่งไม่รับพิจารณาเอกสารของกลุ่มซีพีจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”  เพื่อมีการแข่งขันที่เป็นธรรม และเมื่อศาลสั่งให้คุ้มครอง  ไม่ได้เป็นการทำให้เกิดอุปสรรคกับการบริหารงานของรัฐแต่อย่างใด จึงเห็นควรให้มีการคุ้มครองชั่วคราว โดยให้รับเอกสารซอง 2 กล่องที่ 6 และซอง 3 กล่องที่ 9 เปิดและพิจารณาตามขั้นตอน


สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้าแกรนด์คอนซอร์เตียม มี บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ถือหุ้นใหญ่ร้อยละ  80 บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็นร้อยละ 10 และ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียร้อยละ  10 และมีกลุ่ม บจ.GMR Group Airport ประเทศอินเดียบริหารสนามบินร่วมด้วย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย