ลุ้นกลุ่มซีพีประมูลสร้างสนามบินอู่ตะเภา

นครกวางโจ  21  ต.ค. – ลุ้นกลุ่มซีพีร่วมประมูลสร้างสนามบินอู่ตะเภา หลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินนัดสุดท้าย 7 พ.ย. อีอีซีพร้อมมอบพื้นที่ก่อสร้าง หลัง รฟท.ลงนามสัญญาสร้างรถไฟฟ้ากับกลุ่มซีพี 24  ต.ค.   


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์และพันธมิตร (CPH) แจ้งกำหนดการลงนามสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภา ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกลุ่มซีพีเนื่องจากเห็นว่าเป็นวันที่มีฤกษ์งามยามดี  เมื่อลงนามแล้วขั้นตอนก่อสร้างจะเริ่มเดินหน้าชัดเจน อีอีซีจึงเตรียมการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ทันตามกำหนด นับว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในเขตอีอีซีคืบหน้ามาก ทั้งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน การสร้างสนามบินอู่ตะเภา จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับแผนก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาให้นำเอกสาร 2 กล่องเข้ามาพิจารณาร่วมในขั้นตอนการประมูลหรือไม่ จากเอกสารทั้งหมด 10 กล่อง แต่กลุ่มซีพีส่งเอกสารมาให้คณะกรรมการคัดเลือกล่าช้าไม่ทันกำหนด  2 กล่อง คณะกรรมการคัดเลือกพิจารณาแล้วระบุว่ารับได้เพียง 8 กล่อง อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดระบุว่าให้นำเอกสาร 2 กล่องกลับเข้ามาพิจารณาได้ ศาลปกครองสูงสุดจึงเตรียมออกนั่งบัลลังก์พิจารณาตัดสินวันที่ 4 หรือวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 การพิจารณาคดีครั้งสุดท้ายกรณียื่นประมูลก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา นับว่ากลุ่มซีพียังอยู่ในขั้นตอนการเสนอราคาก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเข้าสู่กระบวนการร่วมการประมูลได้ หากรายใดชนะประมูลเดินหน้าก่อสร้างสนามบินต่อ หากศาลตัดสินว่าซีพีเข้าร่วมไม่ได้ถือว่าซีพีสอบตก จะเหลือเอกชน 2 รายเข้าร่วมการประมูล เมื่อนำเอกสารมาร่วมพิจารณาด้วยกันทั้งหมด 


ทั้งนี้ คาดว่าใช้เวลาเพียงสัปดาห์เดียวจะเสร็จ  เมื่อเอกชนทุกรายผ่านการพิจารณาทางเทคนิค คุณสมบัติถูกต้องร้อยละ 80 จะร่วมแข่งขันประมูลราคาได้  คาดว่าปลายเดือนพฤศจิกายนจะลงนามร่วมกับภาคเอกชนผู้ชนะการประมูลได้ เนื่องจากอัยการร่างสัญญาเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ยอมรับว่าการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาไม่น่าห่วงมากเท่ากับการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพราะต้องส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างกรุงเทพฯ ชั้นใน และจุดตัด 230 จุด ต้องรีบแก้ไข โยกย้าย และภาครัฐเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างหลัก  ส่วนสนามบินอู่ตะเภาเป็นพื้นที่ว่างเปล่า 6,500 ไร่ในพื้นที่เดียวกัน มูลค่าลงทุน 290,000 ล้านบาท สามารถส่งมอบได้ทันที และการสร้างสนามบินเป็นการลงทุนของภาคเอกชน จึงไม่น่าห่วงเรื่องแผนก่อสร้าง  

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเผยว่ากรณีศาลให้ทุเลาการบังคับด้วยการให้คณะกรรมการคัดเลือกโครงการ ยอมรับเอกสารซอง 2 กล่องที่ 6 และซอง 3 กล่องที่ 9 ของกลุ่มซีพีและพันธมิตรเอาไว้พิจารณา เนื่องจากเป้าหมายหลักของการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุ พ.ศ.2560 ทุกโครงการเป็นต้นไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่รัฐ จึงต้องเปิดให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม  การปฏิบัติต่อผู้ประกอบการเท่าเทียม มีหลักเกณฑ์หลักปฏิบัติต่าง ๆ ที่ชัดเจน และตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุน (PPP ) 2562  เงินลงทุนโครงการ ขนาดใหญ่มากกว่า 5,000 ล้านขึ้นไป ให้อำนาจศาลปกครองกำหนดวิธีชั่วคราวเพื่อบรรเทาทุกข์แก่คู่กรณี เพื่อให้เป็นไปตามหลักการสำคัญคือรักษาประโยชน์สูงสุดให้รัฐ    

เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ย่อมมีการยื่นเอกสารจำนวนมาก  ต้องแจ้งรายละเอียดให้ชัดเจน  ส่วนการอ้างว่าการขนเอกสารที่มีปัญหา ผ่านจุดลงทะเบียนช่วงเวลา  15.09 น. เป็นหลักฐานภาพนิ่งที่ปรากฎออกมาหลังจากวันปิดรับซองแล้ว  และศาลพิจารณาว่าเวลา 15.09 น. ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เอาไปใช้พิจารณาว่า เกิดข้อบกพร่องในการยื่นซอง “คำสั่งไม่รับพิจารณาเอกสารของกลุ่มซีพีจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”  เพื่อมีการแข่งขันที่เป็นธรรม และเมื่อศาลสั่งให้คุ้มครอง  ไม่ได้เป็นการทำให้เกิดอุปสรรคกับการบริหารงานของรัฐแต่อย่างใด จึงเห็นควรให้มีการคุ้มครองชั่วคราว โดยให้รับเอกสารซอง 2 กล่องที่ 6 และซอง 3 กล่องที่ 9 เปิดและพิจารณาตามขั้นตอน


สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้าแกรนด์คอนซอร์เตียม มี บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ถือหุ้นใหญ่ร้อยละ  80 บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็นร้อยละ 10 และ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียร้อยละ  10 และมีกลุ่ม บจ.GMR Group Airport ประเทศอินเดียบริหารสนามบินร่วมด้วย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ออกแบบ-ก่อสร้าง ผิด กม.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- นายกฯ เผยผลสอบตึก สตง.ถล่ม ครบ 90 วัน เกิดจากการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผนังช่องลิฟต์-บันไดไม่ได้มาตรฐาน เตรียมส่งข้อมูลให้ ดีเอสไอ-ตำรวจ ชี้คนผิด ยันเรื่องนี้ต้องไม่เงียบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เข้าร่วมประชุมด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเปิดประชุมว่า วันนี้ (30 มิ.ย.) ก็ครบ 90 วัน หรือ 3 เดือนพอดีหลังเกิดเหตุการณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า การแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม […]

ครอบครัวเหยื่อเก๋งแดง เศร้ารับศพไปบำเพ็ญกุศล

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – ครอบครัวเศร้ารับศพสาวเหยื่อเก๋งแดง ซิ่งชน จยย.รับจ้าง แล้วหนี ส่วนคนขี่ จยย.รับจ้าง บาดเจ็บสาหัส อาการยังโคม่า ไม่รู้สึกตัว ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยเพชรเกษม 19 จะเห็นรถจักรยานยนต์ขี่มาในเลนซ้ายตามปกติ ก่อนรถเก๋งสีแดงคาดดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ขับตามหลังมาในเลนเดียวกันจะพุ่งมาด้วยความเร็ว ชนรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนร่างนายดุลยวัต อายุ 27 ปี คนขี่จักรยานยนต์ และนางสาวจิตติมา อายุ 30 ปี คนซ้อนท้าย ลอยไปไกลหลายเมตร อาการสาหัส ขณะที่นางสาวจิตติมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนรถเก๋งแดงกลับขับรถหลบหนีโดยไม่ลงมาดู ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามหารถคันนี้พบว่าหลบหนีมาจอดทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ย่านถนนเพชรเกษม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก พบแต่รถยนต์ แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจไปพบจอดอยู่ในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม คาดว่าน่าจะอยู่ในคอนโดฯ นี้ จึงเจรจากับนิติบุคคลคอนโดฯ นำรถมาที่สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ และตามเจ้าของรถมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นางสาวไพริน อายุ 41 ปี แฟนของผู้บาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาว่า สามีมีอาขีพขี่ จยย.รับจ้างและโบลท์ […]

“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เริ่มเปิดจอง 1 ก.ค. เที่ยวจริง 4 ก.ค.

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- เชิญชวนคนไทยใช้สิทธิ์ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เริ่มเปิดจอง 1 ก.ค. เที่ยวจริง 4 ก.ค. รัฐสนับสนุนสูงสุด 3,000/คืน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ล่าสุด มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวยื่นคำขอลงทะเบียนผ่านระบบ https://partner.tat.or.th แล้วกว่า 34,005 ราย และมีผู้ผ่านการตรวจสอบและลงทะเบียนสำเร็จแล้วถึง 6,400 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวด เพื่อให้โครงการเกิดประโยชน์สูงสุดและป้องกันการสวมสิทธิ์ ขั้นตอนสำคัญของการลงทะเบียน ผู้ประกอบการต้องกรอกหนังสือยินยอมให้ธนาคารกรุงไทยตรวจสอบข้อมูล เพื่อป้องกันการหลอกลวงและการแฝงตัวของสถานประกอบการที่ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยธนาคารจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 3 วัน ก่อนส่งข้อมูลให้ ททท. นำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 จากนั้นประชาชนจะสามารถจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 และเริ่มเดินทางท่องเที่ยวจริงได้ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ สำหรับสิทธิประโยชน์ของโครงการ รัฐบาลจัดสรรสิทธิ์รวม 500,000 […]

นายกฯ เผยผู้นำฝรั่งเศสพร้อมหนุนไทยหาทางออกปมชายแดน

30 มิ.ย.- นายกฯ เผยผลสายตรง “มาครง” แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น สานต่อความร่วมมือทุกมิติ ยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ย้ำยึดกลไกทวิภาคีหาทางออกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งผู้นำฝรั่งเศสเข้าใจในท่าทีและพร้อมให้การสนับสนุน ยืนยันไทยมุ่งมั่นแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมเชิญประธานาธิบดีฝรั่งเศส เยือนไทยอย่างเป็นทางการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเผยผลการหารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศสระบุ “ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือทางโทรศัพท์กับท่านเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงการสานต่อและกระชับความร่วมมือทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยีอวกาศ กลาโหม และพลังงานสะอาด เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ของไทย-ฝรั่งเศสไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ที่ต่างยึดมั่นในคุณค่าร่วมกันในการส่งเสริมการค้าเสรีระหว่างประเทศและระเบียบโลกที่ตั้งอยู่บนกติการะหว่างประเทศ ดิฉันได้เน้นย้ำบทบาทเชิงรุกของไทยในการส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียน รวมถึงความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงได้ย้ำความมุ่งมั่นของไทยที่จะหารือกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อหาทางออกของปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ซึ่งประธานาธิบดีมาครงแสดงความเข้าใจในท่าทีดังกล่าวของไทยและพร้อมให้การสนับสนุน ดิฉันยังได้ขอบคุณฝรั่งเศสที่สนับสนุนไทยในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป และการสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ระยะยาวแก่ทั้งสองฝ่าย และดิฉันได้ใช้โอกาสนี้เชิญประธานาธิบดีมาครงเยือนไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาที่สองฝ่ายเห็นว่าเหมาะสม โดยประธานาธิบดีมาครงก็ได้เชิญดิฉันเยือนฝรั่งเศสเช่นกันค่ะ ” .-สำนักข่าวไทย