fbpx

ชาวคริสต์ร่วมซ้อมบทเพลง เตรียมรับเสด็จ ‘โป๊ปฟรานซิส’

กทม.21 ต.ค.-ชาวไทยผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกรวมตัวกัน ซ้อมขับร้องบทเพลงต่างๆ ที่จะใช้ในพิธีมิสซา ส่วนหนึ่งในการเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งจะเสด็จเยือนไทยในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งนครรัฐวาติกันและศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก มีกำหนดเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของรัฐบาลระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายนนี้ สร้างความปีติยินดีในหมู่ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดา คริสตชนคาทอลิกต่างรู้สึกตื่นเต้นและเร่งเตรียมงานรับเสด็จในด้านต่างๆอย่างแข็งขัน


ล่าสุดช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพมหานคร แผนกดนตรีศักดิ์สิทธ์ สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้เรียกรวมพลคณะตัวแทนฆราวาสคาทอลิกทั้งชายหญิงเป็นจำนวนกว่า 1,000 คน เพื่อมาฝึกซ้อมการขับร้องบทเพลงต่าง ๆ ที่จะใช้ในพิธีบูชาขอบพระคุณที่สนาม

ศุภชลาศัยวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้


บทเพลงที่จะใช้ในพิธี อาทิ “สดุดีพระสันตะปาปา” , “สมเด็จพระสันตะ ปาปา เสด็จเยือนแผ่นดินสยาม” , “มาร์ช วิว่า อิล ปาปา” (Viva il Papa) และ “ให้รักเป็นสะพาน“ ซึ่งเป็นเพลงที่ได้รับความร่วมมือจากค่ายเพลงดังอย่างจีเอ็มเอ็มแกรมมี่และศิลปินนักร้อง ดารา นักแต่งคาทอลิกจากทั่วเมืองไทย ในการแต่งคำร้อง/ทำนอง และจัดทำมิวสิควิดีโอร่วมกัน เพื่อให้ผลงานเป็น ดังการร่วมรวมใจและเป็นส่วนหนึ่งในคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปา ให้สร้างสันติสุข และเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าการแตกแยกแบ่งข้าง

บรรยากาศในการฝึกซ้อมเป็นไปอย่างชื่นมื่นทุกคนต่างมีความปีติยินดีที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับงานสำคัญระดับประเทศ ในการรับเสด็จองค์ประมุขแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งจะทรงเดินทางมาเยี่ยมคริสตชนชาวไทยและเสด็จเยือนคนไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก “นักบุญยอห์นปอลที่ 2 พระสันตะปาปา” เคยเสด็จมาเยือนไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1984 หรือปีพุทธศักราช 2527

สำหรับการเสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเดินทางด้วยเครื่องบินพระที่นั่งจากกรุงโรมประเทศอิตาลีมาถึงไทยในวันที่ 20 พฤศจิกายน  ก่อนทรงประกอบกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  , การเสวนากับบรรดาผู้นำศาสนา ,การประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณที่สนาม

ศุภชลาศัย และพิธีบูชาขอบพระคุณสำหรับเยาวชนที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขตบางรัก เป็นต้น หลังจากนั้นจะเสด็จไปยังประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 23 พ.ย. ต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย