กทม. 18 ต.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน ก่อนนัดวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้วินิจฉัยความเป็น ส.ส. ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดีย เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่
การไต่สวนพยานทั้ง 10 ปากในวันนี้ เพื่อหาความชัดเจนเรื่องการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ของนายธนาธร ให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคม 2562 ตามที่นายธนาธรอ้าง เป็นข้อเท็จจริงที่รับฟังได้หรือไม่ โดยพยานที่มาให้การเป็นพยานที่รู้เห็นคือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ กับพยานที่ไปดำเนินการต่อหลังการโอนหุ้น
ข้อต่อสู้โต้แย้งคดีโอนหุ้นวี-ลัค มีเดีย มีการยกประเด็นบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ไม่ได้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน การโอนหุ้นจริงในวันที่ 8 มกราคม ขั้นตอนและอำนาจในกระบวนการยื่นคำร้องคดีนี้
นายธนาธรชี้แจงว่า มีการโอนหุ้น 675,000 หุ้น ให้กับนางสมพร วันที่ 8 มกราคม 2562 โดยไม่เคยเข้าไปบริหารหรือทำธุรกรรมใดๆ ในบริษัท เป็นเพียงผู้ถือหุ้น และหลังจดทะเบียนตั้งบริษัทแล้วไม่เคยเข้าไปรู้เห็นเกี่ยวข้องเลย
นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร ย้ำว่า ตั้งใจที่จะยุติบริษัทวี-ลัค มีเดีย เพราะเห็นว่าการทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ไปไม่รอด แต่ก่อนหน้านั้นได้โอนหุ้นให้หลานชาย 2 คน เพื่อหวังว่าที่จะปรับปรุง แต่เมื่อดูแผนธุรกิจที่หลายชายเข้าไปศึกษาแล้วเห็นว่า หากทำต่อจะต้องลงทุนเพิ่ม ส่วนการที่บริษัทไม่ปิดทันที เพราะยังเหลือสัญญาการรับพิมพ์หนังสือ จิ๊บ-จิ๊บ ให้กับบริษัทนกแอร์ และหนังสือของธนาคารไทยพาณิชย์ แต่หนังสือที่เป็นของบริษัท วี-ลัคมีเดีย ที่ชื่อว่า WHO ยุติตั้งแต่แรก ดูจากการเลิกจ้างและยกเลิกประกันสังคม
ส่วนการกำหนดให้วันที่ 8 มกราคม เป็นวันโอนหุ้น ไม่ใช่เป็นวันพิเศษอะไร แต่ยืนยันเดินทางกลับจากบุรีรัมย์ด้วยรถยนต์ โดยนัดโอนหุ้นในช่วงเย็นของวันเดียวกัน การให้การในเรื่องนี้สอดคล้องกับคนขับรถ ทนายความ และพยานซึ่งเป็นพนักงาน ที่ให้การเรื่องวันโอนหุ้นว่าได้ดำเนินการที่บ้านของนายธนาธร มีการตรวจสอบตราสารหุ้น จดทะเบียนในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น และชื่อผู้โอนและผู้รับ ซึ่งในวันที่ 8 มกราคม มีการจ่ายค่าหุ้นจริง แต่การนำเช็คไปเข้าบัญชีในเดือนพฤษภาคม ที่ทิ้งช่วงนานเพราะต้องให้ กกต.ตรวจสอบ และช่วงของการคลอดลูก ประกอบกับเช็คเป็นของบริษัทในเครือและของแม่นายธนาธรจึงไม่รีบ
ส่วนขั้นตอนและอำนาจในกระบวนการยื่นคำร้องคดีนี้ของ กกต. ที่นายธนาธรระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะ กกต.เร่งรัดส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ยังไต่สวนไม่เสร็จนั้น นายธนาธร ระบุว่า กกต.มีเอกสารมาถึงตนและนางสมพร เพื่อเรียกไปให้ถ้อยคำตอนเช้า แต่หนังสือเรียกส่งมาถึงบ้านในช่วงบ่าย กระบวนการสอบสวนไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ศาลก็ไม่ควรพิจารณาคดีนี้. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
► “ธนาธร” หงุดหงิดหลังถูกศาลซักคดีหุ้นสื่อ