รัฐสภา 17 ต.ค.- ผู้นำฝ่ายค้านฯ แนะรัฐเอาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 63 กลับไปทำใหม่ ชี้ จัดงบไม่สอดคล้องปัญหาเศรษฐกิจ เน้น สนับสนุนงบด้านความมั่นคงมากกว่าแก้ปากท้องประชาชน แจกงบหลายโครงการไม่ยึดโยงกับการพัฒนาและประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า ดูการจัดสรรงบประมาณฯ ปี 2563 แล้วเห็นว่า นโยบายที่หลายพรรคหาเสียงไว้ ไม่ได้มีการจัดจัดสรรงบประมาณให้ และพบว่าการจัดสรรงบประมาณไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จึงต้องการให้รัฐบาลนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ นี้ กลับจัดทำใหม่ ไม่เช่นนั้นไม่สามารถให้ความเห็นชอบได้
นายสมพงษ์ กล่าวว่า งบประมาณถือเป็นเรื่องสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงควรจัดสรรด้วยความเป็นธรรม และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ แต่พบว่ามีการจัดสรรงบประมาณในภาคส่วนที่ไม่ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีการจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในยอดที่สูงขึ้น ทั้งที่ไม่ได้เป็นความจำเป็นเร่งด่วน และ สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน
“มีการนำงบประมาณไปแจกอย่างสิ้นคิด โดยไม่ยึดโยงกับการพัฒนา และประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจ เป็นเพียงการยืดเวลาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการชิมช้อปใช้ ไม่ได้ทำให้ประเทศพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตได้ ในทางที่ถูกต้องควรใช้งบประมาณในการสร้างแรงจูงใจ เพื่อให้คนผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างงาน สร้างผลผลิตใหม่ๆ ให้ได้” นายสมพงษ์ กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวว่า เมื่อติดตามการส่งออก 10 เดือนของประเทศไทยปีนี้ยังติดลบอยู่ ขณะที่กำลังซื้อระดับกลางและระดับล่างลดลง ทำให้เห็นว่าประเทศกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และจากการติดตามการจัดทำงบประมาณภายใต้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผ่านมา จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี รวม 14.32 ล้านล้านบาท และต้องกู้เงินเพื่อชดเชยจำนวนมาก แต่ประมาณการรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
“เอากลับไปเถอะครับ เอาไปพิจารณาใหม่แล้ว ทำมาใหม่ เพราะงบประมาณฉบับนี้มีปัญหาหลายปัญหา ถูกนำไปใช้ในภาคส่วนที่ไม่ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ งบประมาณขาดความชัดเจนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะนี้ประเทศชาติขาดกำลังซื้อ ค่าเงินบาทแข็งตัวเกินความจำเป็น ขาดความชัดเจนในแนวทางที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านี้ และยังมีปัญหาเรื่องงบกลาง 5 แสนกว่าล้านบาท นำไปใช้หนี้ 200,000 บาทกว่าล้าน ชดใช้เงินคงคลังอีกเหลือประมาณ 90,000 กว่าล้านบาท ก็หวังว่าอย่าเอางบอย่างนี้ไปซื้อยุทโธปกรณ์อีก ผมห่วงจริงๆ” นายสมพงษ์ กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวว่า งบประมาณถูกใช้เกินตัว ปีนี้จัดสรรงบประมาณขาดดุลอีก 4.6 ขณะที่ ยังมีการใช้จ่ายมากมาย แต่เก็บภาษีได้จำนวนน้อย จึงขาดดุลการคลังมาโดยตลอด เพิ่มขึ้นทุกปีอย่างน่าใจหาย ตัวเลขการขาดดุลงบประมาณที่น่าเป็นห่วงนี้ หากไม่สามารถหยุดได้ ปฏิบัติเช่นนี้ไปได้อีกไม่นาน ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ล้มละลายทางการคลัง
นายสมพงษ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณถูกใช้โดยกระจุก รัฐบาลมุ่งมั่นนำงบประมาณไปใช้ในการสนับสนุนกลุ่มคนใกล้ชิดของรัฐบาล มีการพูดถึงโครงการ EEC รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีการเมื่อมีการเวนคืนที่ดิน แถว จ.ฉะเชิงเทรา ที่ดินส่วนใหญ่เป็นของคนมีฐานะทำให้ที่ดินมีราคาแพง. – สำนักข่าวไทย