fbpx

“ธรรมนัส” มั่นใจเสียงในสภาโหวตผ่านงบปี 63

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – “ร.อ.ธรรมนัส” มั่นใจประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 จะผ่านไปโดยราบรื่น ขณะที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอของบฯ  136,500 ล้านบาท  


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งมีการประชุมวันที่ 17 -19 ตุลาคมโดยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะใช้เวลาพิจารณา 2 วัน จากนั้นเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา 1 วัน ว่า ส.ส.ทุกคนมีความรู้สึก มีความนึกคิดเช่นเดียวกัน คือ การรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงมั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะผ่านได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นนั้น เป็นคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ยืนยันว่าไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอของบประมาณปี 2563 รวม 136,533.24 ล้านบาท แยกตามหน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน 90,243 ล้านบาท กรมส่งเสริมการเกษตร 2,838 ล้านบาท กรมปศุสัตว์ 5,319 ล้านบาท กรมพัฒนาที่ดิน 4,802 ล้านบาท กรมวิชาการเกษตร 802 ล้านบาท กรมประมง 4,712 ล้านบาท กรมการข้าว 5,299 ล้านบาท กรมส่งเสริมสหกรณ์ 2,543 ล้านบาท กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 1,158 ล้านบาท สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) 1,280 ล้านบาท สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1,855 ล้านบาท กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 866 ล้านบาท กรมหม่อนไหม 370 ล้านบาท สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 248 ล้านบาท สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง 105 ล้านบาท สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร 1,116 ล้านบาท สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ 118 ล้านบาท สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 255 ล้านบาท


สำหรับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร 600 ล้านบาท การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) 10,715 ล้านบาท องค์การสะพานปลา 543 ล้านบาท และกองทุนประกอบด้วย กองทุนจัดรูปที่ดิน 554 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 825 ล้านบาท และกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน 100 ล้านบาท 

ส่วนนโยบายเร่งด่วน 12 ประการของรัฐบาลที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวข้องมี 9 เรื่อง วงเงิน 68,790 ล้านบาท ได้แก่ แก้ไขปัญหาหนี้สิน ช่วยเหลือเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ 432,790ราย วงเงิน 3,245 ล้านบาท มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกวงเงิน 158 ล้านบาทเช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรภายในประเทศและการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรมวงเงิน 22,438 ล้านบาท แบ่งเป็น การแก้ปัญหาข้าว แผนการผลิตข้าวครบวงจร 6,080 ล้านบาท แก้ปัญหายางพาราวงเงิน 10,714 ล้านบาท ยกระดับศักยภาพแรงงาน การจัดการปัญหาต่างด้าวและการค้ามนุษย์วงเงิน 45 ล้านบาท การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคตวงเงิน 507ล้านบาท การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 สร้างนักวิจัยและนวัตกรวงเงิน 3.9 ล้านบาท การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้วงเงิน 275 ล้านบาท การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัยวงเงิน 39,264 ล้านบาท 

นโยบายรัฐบาลที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวข้องตามนโยบายหลัก 12 ด้าน งบประมาณ 152,849 ล้านบาท ได้แก่ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 16,758 ล้านบาท การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย 33,277ล้านบาท การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค 218 ล้านบาท การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งฐานราก1,525 ล้านบาท การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 100,741 ล้านบาท การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ 327 ล้านบาท


ส่วนงานสำคัญต่อเนื่องปี 2563 ของกระทรวงเกษตรฯ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลรวม 162,745 ล้านบาท ได้แก่ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 139,845 ล้านบาท ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร 1,127 ล้านบาท การพัฒนาเกษตรปราดเปรื่อง 368 ล้านบาท เกษตรทฤษฎีใหม่ 522 ล้านบาท ระบบส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ 1,424 ล้านบาท การบริหารจัดการการผลิตสินค้าเกษตรตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก 1,921 ล้านบาท แผนการผลิตการตลาดข้าวครบวงจร 6,080 ล้านบาท การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ 1,377 ล้านบาท การพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรได้แก่ มันสำปะหลัง ปาล์ม สับประรด มะพร้าว กาแฟ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หม่อนไหม ประมง ปศุสัตว์ และพืชอื่นๆ รวม 3,162 ล้านบาท การยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร 3,446 ล้านบาท การป้องกันและแก้ไขทำประมงผิดกฏหมาย 703 ล้านบาท พัฒนาประมงพื้นบ้าน 142 ล้านบาท การส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานรัฐ 1,997 ล้านบาท ส่งเสริมพัฒนาระบบตลาดภายในสำหรับสินค้าเกษตร 625 ล้านบาท และงบรายจ่ายบูรณาการ 13 แผนงานของส่วนราชการในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ 135,009 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด