บอร์ดการเคหะฯ รุกสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ยกระดับมาตรฐานบ้านเคหะ

กทม.15 ต.ค.-บอร์ดการเคหะฯ เดินหน้า 10 มาตรการเร่งด่วน ปรับคุณภาพมาตรฐานและภาพลักษณ์การเคหะ ล้างภาพบ้านเอื้ออาทรในอดีต ยกระดับสู่องค์กรคุณภาพ ตั้งเป้าเห็นผลเร็วสุดภายใน 30 วัน



นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เข้าพบและแสดงความยินดีกับนายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ 


นายณัฐพงศ์  กล่าวว่า ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ  ซึ่งเป็นการสรรหาตามกฏหมายใหม่ ซึ่งใช้เวลา กระบวนการคัดเลือกค่อนข้างนานทำให้ตนและกรรมการทั้งชุดมีเวลาในการศึกษาข้อมูลรวมทั้งปัญหาต่างๆของการเคหะแห่งชาติ และทันทีที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่1 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการชุดนี้ก็ได้เริ่มทำงานทันที โดยได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารของการเคหะแห่งชาตินัดแรกในวันที่ 4 ต.ค.เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการบริหารงานของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งพบว่ายังคงมีปัญหาสะสมหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหามาตรฐาน สภาพโครงการ สิยทรัพย์คงค้างจำนวนมาก รวมทั้งต้องเร่งมือในการพัฒนาโครงการต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน จึงได้มีนโยบาย เร่งด่วน10มาตรการ  หรือ BIG BANG แบ่งเป็น3 กลุ่มย่อย

โดยกลุ่มแรกเป็นการลงทุนเพื่อประชาชน ได้ให้แนวทางกับผู้บริหารการเคหะแห่งชาติไปศึกษาหรือหาเทคโนโลยีก่อสร้างแบบใหม่ที่มีความเหมาะสม ทั้งด้านคุณภาพและราคาเพื่อยกระดับมาตรฐานโครงการบ้านการเคหะให้มีคุณภาพดีสมเหตุสมผล เปลี่ยนภาพลักษณ์จากบ้านคุณภาพต่ำบ้านที่มีปัญหาและมีการร้องรียนมาโดยตลอดให้เป็นบ้านแบบสมาร์ทโฮมออกแบบสวยงามยกระดับมาตรฐานแนวคิดการสร้างเพื่อประชาชน  โดยจะไม่มีคำว่าบ้านเอื้ออาทรสำหรับผู้มีรายได้น้อยอีกต่อไป โดยพยายามจะให้เห็นผลภายในปีนี้


ขณะเดียวกันจะเร่งรัดกระบวนการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเชิญบริษัทผู้เชี่ยวชาญการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชน มาร่วมลงทุนในโครงการรัฐเอกชนร่วมทุน (PPP) จำนวน 13 โครงการ หมดแล้วค่ารวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท รวมโครงการที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการชุดใหม่อีก 5-7  โครงการ  เพื่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยให้มีจำนวนมากขึ้นและตอบสนองประชาชนในแต่ละกลุ่มให้มากที่สุด ซึ่งในปี 2561 มีโครงการที่ผ่านกระบวนการรัฐเอกชนร่วมลงทุน5 โครงการขนาดใหญ่ เช่นโครงการพัฒนาพื้นที่แฟลตดินแดงมูลค่า 3.9 หมื่นล้านบาท 

นอกจากนี้คณะกรรมการชุดนี้ยังให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องการแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยอันดับแรกจะจัดการกับสินทรัพย์เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นที่ดินจำนวน 4,442 ไร่ มูลค่ากว่า 7,700 ล้านบาท และดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ก่อความเสียหายทุกกรณีโดยเฉพาะโครงการเอื้ออาทรที่ล้มเหลวและมีการทุจริต รวมทั้งเร่งจำหน่ายที่อยู่อาศัยคงค้างซึ่งมีจำนวน 21,000 หน่วย มูลค่ากว่า 24,000 ล้านบาท โดยจะร่วมมือกับส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งมีความต้องการที่อยู่อาศัยหรือภาคเอกชนเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายทรัพย์สินอย่างเร่งด่วนพร้อมเจรจาสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อระบายสินทรัพย์คงค้างให้อย่างเร็วที่สุด

และสุดท้ายเป็นมาตรการที่จะยกระดับมาตรฐานของการเคหะ  โดยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของการเคหะให้เป็นหน่วยงานที่สร้างบ้านคุณภาพเทคโนโลยีสูงและราคาประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนชั้นกลางเข้าถึงได้ ซึ่งส่วนนี้จะใช้มาตรการ จัดการระบบภายในเพื่อแก้ปัญหาการก่อสร้างและนิติบุคคลที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเด็ดขาดโดยจะมีการจัดลำดับผู้รับจ้างชั้นดี ชั้นกลางและไม่ได้มาตรฐานไม่ให้รับงานจากการเคหะและจัดระบบการจ้างงาน การตรวจรับงานภายในองค์กรให้เข้มงวดโปร่งใสตรวจสอบได้ รวมทั้งส่งเสริมตลาดชุมชนของการเคหะให้ได้มาตรฐานเพื่อกระจายเศรษฐกิจสู่ฐานราก 

ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาที่สั่งสมมานานให้เห็นผลได้ในระยะเร่งด่วน 30 วัน 60 วันและ 90 วัน และจะนำมาตรการ 10 มาตรการเร่งด่วนนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนัดที่2 ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้เพื่อขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติร่วมกันกับผู้บริหารและชาวการเคหะแห่งชาติและประกาศต่อประชาชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย

ปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว

กองทัพบก 12 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ประกาศปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว อำนวยความสะดวกประชาชนตามหลักมนุษยธรรม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษก ทบ.ค่ะ เปิดเผยว่า กองทัพบกได้ดำเนินมาตรการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว และพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี จ.อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ โดยให้กองกำลังป้องกันชายแดนพิจารณาให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกประชาชนตามหลักมนุษยธรรม ล่าสุด วานนี้ (11 มิถุนายน 2568) กองกำลังบูรพาได้มีการปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า ในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกประชาชน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีรายละเอียดดังนี้ 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน : เปิด – ปิด เวลา 08.00 – 16.00 น. และผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ (จากเดิมที่ไม่อนุญาตรถบรรทุก) โดยจำกัดจำนวนคันที่ 70 คัน/ต่อวัน ทั้งขาเข้าและขาออก 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]