กดปุ่มจ่ายส่วนต่างประกันรายได้

อยุธยา 15 ต.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์กดปุ่มจ่ายเงินประกันรายได้ชาวนาผู้ปลูกข้าวเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเดิมข้าวเปลือก 2 ชนิดก่อน ส่วนข้าว 3 ประเภทราคาตลาดยังสูงกว่าประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงบ่ายวันนี้ตั้งแต่เวลา 13.50 – 15.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นประธานเปิดสัมมนาชี้แจงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหลักชัย อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยถ่ายทอดสดผ่านช่อง 9 MCOT ซึ่งมีชาวนาจากจังหวัดสุพรรณบุรี, อ่างทอง, นครปฐม และปทุมธานี เป็นตัวแทนเข้าร่วมกว่า 500 คน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นอกจากจะมอบนโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 แล้วยังจะคิกออฟการจ่ายเงินประกันรายได้ส่วนต่างให้กับชาวนาตั้งแต่วันนี้ ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินงวดแรกสำหรับการประกันรายได้ข้าว 

ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดหลักเกณฑ์ประกันรายได้ข้าวเปลือกไว้จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ครัวเรือนละ 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน  หากเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าชี้แจงโครงการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 โดยคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 งวดที่ 1 ประจำวันที่ 15 ต.ค.2562 เพื่อชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสำหรับผู้ที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 16 ต.ค.2562 แล้ว โดยจะมีการจ่ายชดเชยรายได้ให้กับข้าวเปลือก 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 2,469.64 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุมธานีตันละ 783.45 บาท เพราะราคาตลาดต่ำกว่าราคาประกันรายได้ โดยขณะนี้ ข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ตันละ 7,530.36 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 10,216.55 บาท ส่วนอีก 3 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกเหนียว ไม่ชดเชย เพราะมีราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน

ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ของภาครัฐในครั้งนี้ใน 2 ชนิดข้าวเปลือกดังกล่าวแบ่งเป็นข้าวเปลือกเจ้าเงินส่วนต่างบาท 2,469.64 บาทต่อต้นคูณ 30 ตัน เป็นเงิน 74,089.20 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุมธานีรับส่วนต่าง  783.45 คูณ 25 ตัน เป็นเงิน19,586.25 เป็นต้น ซึ่งตามตัวเลขโครงการประกันรายได้ของภาครัฐจะใช้เงินมากกว่า 21,400 ล้านบาทและจ่ายงวดแรกในวันนี้ ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการในแต่ละพื้นที่กว่า 349,000 ครัวเรือน คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 9,400 ล้านบาทเป็นต้น . – สำนักข่าวไทย