นายกฯ ลงพื้นที่ จ.อุบล ช่วยฟื้นฟูน้ำท่วม

อุบลราชธานี 11 ต.ค.-  นายกฯ ลงพื้นที่ จ.อุบลฯ ช่วยฟื้นฟูน้ำท่วมและซ่อมแซมบ้านเรือน  ขอน้ำท่วมครั้งนี้ล้างใจ ไม่มีบาดหมาง   อย่าไปหลงเชื่อการปลุกปั่นให้ร้ายต่างๆ ทำให้เกิดความเกลียดชัง เผย กำลังศึกษาแนวทางแก้ไขความยากจนจากจีน พร้อมให้กำลังใจญี่ปุ่นรับมือไต้ฝุ่น


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เวลา 14.00 น. วันนี้ (11 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มรว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จ.อุบลราชธานี


นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังศาลาประชาวาริน ต.วารินชำราบ ชมวีดิทัศน์สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ จากนั้น  มอบนโยบาย และมอบอุปกรณ์ฟื้นฟูครัวเรือน โดยมี ส.ส.ในพื้นที่ นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐในพื้นที่ อาทิ นายอดุลย์ นิลเปรม นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต น.ส.โยธากาญจน์ ฟองงาม มาให้การต้อนรับ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 เพื่อติดตามดูแลสถานการณ์ตามนโยบายของรัฐบาล  การประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ได้อนุมัติมาตรการที่เหมาะสมให้ความช่วยเหลือ และอนุมัติงบประมาณกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของการให้ความช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท และงบฯ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ได้มีการช่วยเหลือในเรื่องของการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย รวมถึง รถยนต์ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส รัดกุม


“ขอบคุณประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้เพียงตามลำพัง และขอให้ทุกคนมีกำลังใจ  นายกรัฐมนตรีก็มีกำลังใจของนายกรัฐมนตรีเอง รัฐบาลยืนยันที่จะช่วยเหลือในทุกพื้นที่ เพราะเป็นรัฐบาลไม่สามารถที่จะเลือกพื้นที่ได้ แม้ว่าพื้นที่นั้นจะเป็นพื้นที่ของใครก็ตาม และยินดีที่จะพูดคุยกับทุกพรรคการเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศ  แต่จะต้องอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังให้ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศจีน ที่สามารถเพิ่มรายได้ประชาชน และ หลุดพ้นจากปัญหาความยากจนได้หลายล้านคนภายในเวลาไม่กี่ปี แต่วิธีการนั้นเราต้องมาดูว่าทำได้แค่ไหน และแตกต่างกันอย่างไร ในระบอบประชาธิปไตยของเรากับสังคมนิยมประชาธิปไตย แต่ทั้งหมดอย่าไปคำนึงถึงว่าจะเป็นระบอบอะไร  ขอเพียงร่วมมือกันทำในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ  ต่อตัวเองและครอบครัว นั่นคือประชาธิปไตยแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ถ้าจะเอาประชาธิปไตยไปอีก จนกระทั่งไร้ขีดจำกัด นั่นก็ต้องไปดูสิว่า ประชาชนเขาว่ายังไง เขาพร้อมจะไปถึงตรงนั้นแล้วหรือยัง ผมไม่สามารถไปก้าวล่วง ก้าวล้ำท่านได้ สิทธิของท่าน แต่อย่าลืมว่าต้องมีหน้าที่ ความรับผิดชอบ จิตสำนึก และอุดมการณ์ ความรักชาติ ประเทศไทยผ่านวันเวลาต่างๆ มายาวนานแล้ว กว่าจะเป็นเราวันนี้ หลายร้อยปีแล้ว แล้วพวกเรายังต้องสร้างคนสร้างชาติต่อไปอีกในวันข้างหน้า อีกหลายร้อยปี เราต้องสร้างชาติเราให้มั่นคง ให้เข้มแข็ง อย่าไปหลงเชื่อการปลุกปั่นให้ร้ายต่างๆ ทำให้เกิดความเกลียดชังกัน มันต้องไม่เกิดขึ้นอีก ถึงจะแก้ปัญหาประเทศนี้ได้ แต่ผมชื่อว่าพวกเราใจสู้อยู่แล้ว คนไทยใจสู้ใช่หรือไม่   

“ผมมีชีวิตมาอย่างนี้ โตขึ้นมา บางเวลาก็อ่อนแอ อ่อนไหว แต่ถึงเวลาก็ต้องสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรัฐบาล เป็นข้าราชการ ต้องทำเพื่อคนอื่น และทำในสิ่งที่ถูกต้อง และวิธีที่ถูกต้องด้วย การทำให้คนรักเป็นเรื่องง่าย แต่เป็นรักชั่วคราวหรือไม่ ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่ผมคำนึงเสมอมา เพราะรัฐบาลนี้ประกอบด้วยหลายพรรคการเมือง และรักกันดีมาตลอด หลายอย่างที่ ส.ส. พูดในสภาฯ ขอถนน ขอน้ำและไฟ หลายอย่างผมก็ดูให้ รวมถึง ข้อเรียกร้องต่างๆ ทั้งในโซเชียล และในสื่อฯ บางทีก็สร้างความเข้าใจผิดกัน สังคมก็เกลียดกัน ซึ่งวันนี้จะเกลียดกันไม่ได้อีกแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องให้กำลังใจประเทศญี่ปุ่นที่กำลังจะถูกพายุไต้ฝุ่นเข้าพื้นที่ และตนเตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมส่งกำลังใจไปให้ด้วย เพราะถือว่าเราเป็นเพื่อนกัน และจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน และในเดือนหน้า ไทยเตรียมที่จะเป็นประธานประชุมอาเซียน ขณะที่ ปลายเดือนนี้ตนจะต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังวัดท่ากกแห่ ต.จะระแม เพื่อกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดท่ากกแห่ พร้อมถวายของ และมอบของให้ผู้ประสบภัย พร้อมทั้งเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกัน ผมต้องการให้น้ำท่วมครั้งนี้ ล้างใจให้ทุกคนสะอาด ความบาดหมางจากนี้ไปจะไม่มีแล้ว เกลียดกันไปก็ไม่ได้ประโยชน์”

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยี่ยมนางใบ แสงพฤกษ์ อายุ 73 ปี ผู้ป่วยติดเตียง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจ พร้อมมอบของใช้จำเป็นให้กับผู้ป่วย  จากนั้น นายกรัฐมนตรีร่วมกิจกรรมซ่อมบ้าน – คืนบ้านน่าอยู่ โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอกตะปู ช่วยซ่อมแซมบันไดบ้าน มอบตู้ยาสามัญประจำบ้าน และแขวนป้ายบ้านเลขที่ พร้อมมอบอุปกรณ์ฟื้นฟูครัวเรือน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร . – สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย