ภูมิภาค 9 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ห่วงประชาชนภาคเหนือเผชิญหมอกควันเป็นประจำทุกปีช่วง ก.พ.-เม.ย. โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพ เตรียมลงพื้นที่เชียงใหม่พรุ่งนี้ประชุมวางแนวทางแก้ปัญหาแบบบูรณาการ
จากสภาวะอากาศช่วงปีนี้มีความแห้งแล้งปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าปกติ ทำให้เกิดไฟได้ง่ายและลุกลามเร็ว ส่งผลให้สถานการณ์หมอกควันมีความรุนแรงขึ้นได้ อีกทั้งสภาพภูมิประเทศบางแห่งเป็นแอ่งกระทะ เช่น แอ่งแม่ฮ่องสอน แอ่งเชียงใหม่-ลำพูน เป็นต้น ฝุ่นละอองไม่แพร่กระจายและสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน ไม่ตกลงสู่พื้นดิน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ นอกจากนี้ ปัญหาหมอกควันยังส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว รวมถึงบดบังทัศนวิสัยการจราจรทั้งทางบกและทางอากาศ ซึ่งพบว่ามีการยกเลิกและเลื่อนเที่ยวบิน เนื่องจากทัศนวิสัยต่ำกว่าเกณฑ์ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและรับมือสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 ไม่ให้เกิดสถานการณ์หมอกควันในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้มีการประชุมหารือและมอบนโยบาย เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานแบบบูรณาการและมีประสิทธิภาพสูงสุดของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกระทรวงคมนาคม สำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานพร้อมที่จะทุ่มเทสรรพกำลังและทรัพยากรเพื่อหยุดการเผา และควบคุมไม่ให้ฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานตลอดปี 2563
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดจัดประชุมเตรียมรับมือสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือในวันที่ 10 ต.ค.2562 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ โดย พล.อ.ประวิตร จะเป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานแบบบูรณาการ รวมทั้งจะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลและเครือข่ายภาคประชาชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการเฝ้าระวังและดับไฟ นอกจากนี้ จะพิธีปล่อยขบวนคาราวานต้านการเผา ลดหมอกควัน เพื่อคุณภาพอากาศที่ดี เป็นการรณรงค์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประชาชนในการลดและเลิกการเผา ตลอดจนช่วยกันเฝ้าระวังการเกิดไฟและหมอกควัน รวมทั้งหนุนเสริมการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนืออย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย