fbpx

เปิดคลิปสุดท้ายนักศึกษานั่งในรถตู้ก่อนชนสิบล้อดับ

ภูมิภาค 8 ต.ค. – สำนักข่าวไทย ยังคงเกาะติดความคืบหน้าเหตุนักศึกษาที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของวิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครูภาคเหนือ จ.ลำพูน ประสบเหตุรถตู้ชนท้ายรถสิบล้อ ในพื้นที่ จ.ลำปาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 19 คน ล่าสุดขนส่งจังหวัดเข้าตรวจสอบรถตู้ พบมีการดัดแปลงที่นั่ง และโดยสารเกินที่จดทะเบียน ขณะที่โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปสุดท้ายที่หนึ่งในนักศึกษาบันทึกไว้ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 ชั่วโมง


เสียงร้องเพลงอย่างมีความสุข โดยที่ไม่คาดคิดว่า ให้หลังเพียง 1 ชั่วโมง จะเกิดเหตุสลดขึ้น สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่เปิดเข้ามาชม เพราะคลิปนี้เป็นคลิปที่ น.ส.บุษกร แซ่หลิว หรือ น้องยีปี อายุ 17 ปี หนึ่งในนักศึกษาที่เสียชีวิต บันทึกไว้ขณะนั่งด้านหน้าคู่กับอาจารย์ที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถตู้ และส่งต่อให้กับเพื่อน เพื่อบอกว่าขณะนี้เธอและเพื่อนอีก 16 คน เดินทางเข้าเขตพื้นที่ จ.ลำปาง เพื่อเตรียมพร้อมเข้ากรุงเทพฯ ไปรับทุนด้านกีฬา ซึ่งมีหน่วยงานเอกชนเป็นผู้สนับสนุน แต่สุดท้ายเธอและเพื่อนๆ กลับเดินทางไปไม่ถึง


นี่เป็นวินาทีที่กู้ภัยช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกจากรถตู้ที่พังยับเยินอยู่บนทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน สายลำปาง-กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุชนท้ายรถสิบล้อบรรทุกข้าวโพด เมื่อช่วง 01.00 น. วันนี้ (8 ต.ค.) การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากและชุลมุน เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบ 20 คน เจ้าหน้าที่ต้องทยอยลำเลียงส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน คือ น.ส.บุษกร แซ่หลิว อายุ 17 ปี ชาวเชียงใหม่ น.ส.ชนธิชา แตะยี อายุ 18 ปี และ น.ส.วิสุตรา ไม่ทราบนามสกุล อายุ 17 ปี ทั้งหมดเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครูภาคเหนือ ส่วนผู้บาดเจ็บมี 19 คน เป็นหญิง 12 คน ชาย 4 คน และเด็กชายอีก 3 คน 


สอบสวนคนขับรถสิบล้อ ทราบว่า ขับมาตามเส้นทางปกติ เห็นไฟรถส่องตามหลัง สักพักได้ยินเสียงดังโครม จึงจอดข้างทางและแจ้งตำรวจ ส่วนคนขับรถตามหลังรถตู้ บอกว่า ขับพาภรรยาและลูกชาย อายุ 2 ปี 7 ปี และ 8 ปี มาตามถนนมุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถตู้ขวางอยู่ด้านหน้า พยายามหักหลบแต่ไม่พ้น รถชนเข้ากับแท่งแบริเออร์ ทำให้ภรรยาและลูกชายบาดเจ็บ

ด้านตำรวจ สภ.เกาะคา และขนส่งจังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบรถตู้ที่เกิดเหตุ พบว่า รถตู้จดทะเบียนกับขนส่งไว้ในนามของบุคคล จำนวน 11 ที่นั่ง แต่มีการดัดแปลงเพิ่มเบาะให้เป็น 15 ที่นั่ง และมีความเป็นไปได้ที่คนขับใช้ความเร็วสูง 

ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ ดร.พันธุ์นิภา แย้มชุติ ผู้จัดการวิทยาลัยเทคโลยีหมู่บ้านครูภาคเหนือ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับเอกสารนำไปรับศพนักศึกษาที่เสียชีวิตออกจากโรงพยาบาล พร้อมยืนยันวิทยาลัยจะรับผิดชอบทุกอย่าง มั่นใจเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะนายเตชินโภชน์ โพธิ์ทอง คนขับรถตู้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นครูฝึกสอนวอลเลย์บอล ที่ผ่านมาเคยพานักศึกษาไปแข่งขันต่างจังหวัดมาตลอด และไม่เคยเกิดปัญหาแต่อย่างใด ส่วนครั้งนี้ก็ขับพานักศึกษาที่เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของวิทยาลัยเดินทางไปรับทุนที่กรุงเทพฯ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุสลดขึ้น 

ขณะที่บริเวณหน้าห้องรับศพ โรงพยาบาลลำปาง ครอบครัว น.ส.ชนธิชา แตะยี หนึ่งในผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอ ได้มารอรับศพลูกด้วยความโศกเศร้า ร้องไห้ตลอดเวลา 

ส่วนบรรดาเพื่อนๆ ของนักศึกษาที่เสียชีวิต ต่างโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเพื่อน หลายคนยอมรับไม่เชื่อว่าเพื่อนจะมาด่วนจากไป

สำหรับเหตุการณ์นี้ ตำรวจยังต้องตรวจสอบว่า เกิดจากความประมาท ขับรถเร็ว หรือเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด โดยเฉพาะครูที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถพานักศึกษาไปรับทุนที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ยังบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย