สำนักงาน กกต. 7 ต.ค.-“เครือข่ายรักษ์สยาม” ร้อง กกต.พิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญ ยุบ 7 พรรคฝ่ายค้าน มีเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จัดเวทีให้นักวิชาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1
นายนพดล อมรเวช เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายรักษ์สยาม ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบพรรคการเมืองและยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบ 7 พรรคการเมือง ในกรณีที่ 7 พรรคการเมือง ได้ไปร่วมจัดเวทีเสวนาเรื่อง “พลวัตแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และนายสมพงษ์ สระกวี ผู้แทนพรรคเสรีรวมไทย
ในการเสวนาดังกล่าวนางชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 1 ซึ่งการนำเสนอแนวคิดและเจตนาของนักวิชาการดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับเชิญจากผู้ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพของ 7 พรรคฝ่ายค้าน ย่อมต้องทราบกรอบ ขอบเขตและเนื้อหา ซึ่งการเสนอแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 แต่พรรคการเมืองที่เข้าร่วมเสวนา ไม่ได้ให้ข้อมูลในลักษณะท้วงติง เพื่อให้เห็นถึงประวัติศาสตร์การเมืองและความสำคัญของรัฐธรรมนูญว่าเหตุผลและความสำคัญอย่างไรที่รัฐธรรมนูญไทยต้องมีบทบัญญัติมาตรา 1 ไว้ ไม่สามารถแก้ไขได้
และความจำเป็นที่ต้องรักษาไว้ ซึ่งความเป็นรัฐเดียว ไม่สามารถแบ่งแบกได้ แต่กลับมีพฤติกรรมเหมือนรู้เห็นเป็นใจและมีส่วนร่วมสนับสนุน คล้อยตามว่าจำเป็นและสมควรที่ต้องแก้ไขมาตราดังกล่าว จากพฤติการณ์ดังกล่าวเห็นว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามระเบียบรัฐธรรมนูญมาตรา 25 มาตรา 49 มาตรา 255 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 21และ 22 ซึ่งมีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำผิดอันเป็นเจตนาเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
“คนเป็นหัวหน้าพรรคจะปฏิเสธไม่ได้ ว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะทั้ง 7 พรรคการเมืองเป็นเจ้าภาพจัดงานเสวนาขึ้นมา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ ว่าทั้ง 7 พรรคจะไม่ทราบขอบข่ายการเสวนา จึงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เหมือนนั่งรถไปคันเดียวกันแล้วถูกจับ จะปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวข้อง ไม่รู้ว่าคนในรถเขาคิด เขาไปยิงใครมา อย่างนี้พวกท่านไปทำไมถ้าไม่รู้วัตถุประสงค์ ยิ่งพวกท่านเป็นเจ้าภาพในการจัดงานยิ่งหนักเข้าไปอีกในเรื่องวัตถุประสงค์ มันเห็นเจตนา จะบอกว่าเป็นความผิดไม่สำเร็จไม่ได้ เพราะแค่มีความคิดก็ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว เนื่องจากความคิดจะถูกนำไปขับเคลื่อนสู่สิ่งอื่นต่อไป และการแสดงความคิดดังกล่าวก็เผยแพร่สู่สื่อสาธารณะรับรู้โดยทั่วกันนายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า จึงเห็นควรให้ กกต.ตรวจสอบพฤติกรรมของ 6 พรรคการเมือง ซึ่งประกอบไปด้วยพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ ประชาชาติ เพื่อชาติ พลังปวงชนไทยและเสรีรวมไทย และตรวจสอบว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเกี่ยวข้องหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วเข้าข่ายเชื่อได้ว่า 7 พรรคได้กระทำการดังกล่าวก็ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรค จากนี้ ตนและเครือข่ายจะไปพิจารณาให้สิทธิยื่นเรื่องผ่านอัยการและศาลรัฐธรรมนูญอีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย