คนขับแท็กซี่ระดับสาวอักษร จุฬาฯ

กรุงเทพฯ 4 ต.ค.-เปิดใจโชเฟอร์แท็กซี่สาวอักษร จุฬาฯ หลังโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวจนโด่งดังเป็นกระแส เจ้าตัวบอกไม่เคยอาย มีรายได้วันละ 700-1,000 บาท


หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีแชร์ภาพบัณฑิตสาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขับรถแท็กซี่ หารายได้เพิ่มจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kaew Wankawee Yoowattana ที่ลงรูปตนเองขณะกำลังขับรถแท็กซี่ ระบุว่า ” ขับจริง ไม่ได้ไปเป็น Extra นะจ๊ะ แต่ถ้าให้เป็น Extra ก็ไปจ้างงานละครก็ยังรับ นี่เดี๋ยวไปประชุมทำไตเติลลิขิตแห่งจันทร์ต่อ รับจ้างทั่วราชอาณาจักร วิถีฟรีแลนซ์”


เมื่อได้รับการเผยแพร่ออกไป คุณแก้ว หรือ คุณวรรณกวี อยู่วัฒนา วัย 36 ปี ก็กลายเป็นที่พูดถึงสื่อต่างๆ โทรจองคิวสัมภาษณ์ ทำข่าวกันสายแทบไหม้ ที่สำคัญมีคนต่อคิวใช้บริการล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ ด้วย ก่อนที่จะมาเป็นแท็กซี่ คิวทอง คนจองแน่นทุกวันนี้แบบนี้ คุณแก้วลุยงานเบื้องหลังมานานมากกว่า 10 ปี เป็นเลขาผู้จัดละคร ประสานงาน ผ่านละครมานับไม่ถ้วน ที่สำคัญโปรไฟล์ดีมาก จบคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาศิลปการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 


คุณแก้วเล่าว่า ชีวิตเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหาสุขภาพจากการโหมงานหนัก 16 ชั่วโมง สมัยทำกองละคร สะสมมานานหลายปี ทำให้ตัดสินใจยุติการทำงานเบื้องหลัง แล้วเปลี่ยนอาชีพด้วยการมาขับแท็กซี่กับแม่ เพราะแม่ก็ขับมาก่อน รถคันนี้เพิ่งก็ดาวน์มา 4 เดือน โดยคุณแก้วขับกะกลางวัน แม่ขับกะกลางคืน แม้จะผ่านมาหลายเดือนแล้วที่ตัวเองกลายเป็นที่รู้จัก แต่ลูกค้าใหม่ก็มักจะมีคำถามเสมอ ว่า “จบจุฬาฯ ทำไมมาขับแท็กซี่ล่ะ ไม่เสียดายวิชาความรู้หรือ”

เธอเล่าว่า ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร จะอยู่ในสถานะใด ก็สามารถใช้ความรู้ที่ครูอาจารย์สอนมาให้เกิดประโยชน์ได้ ส่วนลูกค้าคนแรกที่โทรฯ มาจอง คือ อาจารย์ที่เคยสอน ซึ่งจะเดินทางไปสนามบิน ต่อมาก็เป็นรุ่นน้องที่คณะอักษรศาสตร์ เหมาไปเที่ยวพัทยา จนเหมือนกับเราพาน้องๆ เที่ยว คือไ ปกันแบบเรื่อย ๆ เราได้งาน ได้เงิน แถมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับน้องๆ และยังได้อัพเดทข้อมูลข่าวสารในวงการที่เราเคยทำงานด้วย ส่วนน้องก็ได้คนขับที่ไว้ใจ ได้เพื่อนคุยด้วย ซึ่งก็สนุกดี

แรงบันดาลใจที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกอาชีพนี้ เพราะคุณแม่ขับแท็กซี่มานานกว่า 10 ปี ซึ่งคุณแม่ทำให้เห็นว่าอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่มั่นคงได้ ที่สำคัญไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด และถึงแม้จะเป็น “โชเฟอร์ผู้หญิง” แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แถมเธอยังได้เปรียบ เพราะลูกค้าผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ จะรู้สึกอุ่นใจที่นั่งแท็กซี่ที่มีคนขับเป็นผู้หญิง แต่หลังจากที่โด่งดังเป็นกระแสในโลกโซเชียล นอกจากคนจะชมแล้ว กับมีอีกมุม “ดราม่า” เกิดขึ้นด้วย โดยเธอเล่าว่า มีคนเข้ามาแสดงความเห็นและต่อว่า…ว่าเธอเรียนจบมาตั้งสูง แต่กลับมาแย่งงาน แย่งอาชีพคนไม่มีความรู้ ทำเอาเธออึ้ง…ว่ามีคนที่คิดอะไรแบบนี้ด้วยหรือ?? ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจ…

 

“มีลูกค้าแปลก ๆ ไหม?” เราถามเธอเรื่องนี้ คุณแก้ว ยิ้มพร้อมบอกว่า ตั้งแต่ทำอาชีพนี้มา เธอโชคดี เพราะยังไม่เคยเจอลูกค้าพูดจาไม่ดี พูดจีบ หรือลวนลาม เคยเจอแต่ลูกค้าใจร้อน อยากไปถึงที่หมายเร็ว ๆ ขณะที่เธอขับไม่เร็ว และเพิ่งขับได้ไม่นานจึงไม่ค่อยรู้เส้นทาง จึงต้องอาศัยลูกค้าคอยบอก เลยทำให้ไม่ค่อยถูกใจ ทำให้เธอโดนหงุดหงิดใส่ แต่ก็ไม่เป็นไร ส่วนถ้าถามว่า “อายไหม?” ถ้าต้องเจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน เธอย้ำว่า…ไม่อายค่ะ”

มีบ่อย ๆ ที่เจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละคนก็ทำงานดี ๆ เงินเดือนเยอะ ๆ แต่งตัวสวย ๆ ขณะที่เราขับแท็กซี่ แต่บอกเลยว่าไม่อาย และไม่รู้สึกอะไร แถมตั้งแต่เป็นข่าวก็มีแต่คนชื่นชม โดยเฉพาะเพื่อน ๆ รุ่นพี่ และอาจารย์ ที่เข้ามาอุดหนุนเป็นลูกค้าเราด้วยซ้ำ และยังมีที่โทรศัพท์มาให้กำลังใจ บอกว่าภูมิใจที่เราทำให้ภาพลักษณ์มหาวิทยาลัยดูดีขึ้น เพราะไม่เลือกงาน ไม่ใช่เรียนจบแล้วแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ 

สำหรับรายได้คุณแก้ว บอกว่า แต่ละวันไม่แน่นอน แต่โดยเฉลี่ยเมื่อหักค่าน้ำมัน ค่ากิน ก็จะมีรายได้ประมาณ 700-1,000 บาท อาจจะไม่มากมายเท่าสมัยทำละครซึ่งเธอยืนยันว่า อยู่ได้สบาย ๆ แต่สมัยที่แท็กซี่ล้นเมือง ถามว่ามีเทคนิคหาลูกค้ายังไง เธอก็บอกว่าใช้วิธีผูกปิ่นโต คุณแก้วย้ำว่า ทุกอาชีพมันก็มีต้นทุน มีราคาที่ต้องจ่าย อย่างขับแท็กซี่ก็ใช้แรงงาน เป็นงานบริการ แต่ก็เครียดอะไรน้อยกว่าอีกหลายอาชีพ เพียงเราทำหน้าที่ขับรถไปส่งลูกค้าให้ถึงที่หมาย ก็ถือว่าภารกิจสำเร็จแล้ว ยืนยันผ่านมา 4 เดือน ชีวิตตอนนี้มีความสุขดี เพราะยังได้ทำงานที่ตัวเองรัก อย่างเขียนบทละคร บทความ งานรีเสิร์ช แบบฟรีแลนซ์ ขณะเดียวกันก็มีอาชีพขับรถแท็กซี่เป็นอาชีพหาเลี้ยงตัว เป็นอาชีพสุจริต ที่มีอิสระในการทำงาน มีเวลาพักผ่อน และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งทุกคนที่รู้จัก โดยเฉพาะแฟน ก็สนับสนุนเส้นทางชีวิตเส้นนี้ของเธอเป็นอย่างดี

แฟนคุณแก้วเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาก็สนับสนุนเต็มที่ โดยบอกว่า… อะไรที่คิดว่าทำได้และดี ก็ทำไป เพราะเขาเข้าใจดีว่าเรามีภาระ ซึ่งแฟนยังบอกอีกว่า ขอให้รักทุกงานที่ทำก็พอ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม เพราะไม่มีงานไหนที่ด้อยไปกว่ากัน ขอเพียงเป็นอาชีพที่ไม่เบียดเบียนใคร เป็นงานที่ไม่ได้คดโกงใคร จะงานอะไรก็มีเกียรติเท่ากันหมด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย