คนขับแท็กซี่ระดับสาวอักษร จุฬาฯ

กรุงเทพฯ 4 ต.ค.-เปิดใจโชเฟอร์แท็กซี่สาวอักษร จุฬาฯ หลังโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวจนโด่งดังเป็นกระแส เจ้าตัวบอกไม่เคยอาย มีรายได้วันละ 700-1,000 บาท


หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีแชร์ภาพบัณฑิตสาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขับรถแท็กซี่ หารายได้เพิ่มจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kaew Wankawee Yoowattana ที่ลงรูปตนเองขณะกำลังขับรถแท็กซี่ ระบุว่า ” ขับจริง ไม่ได้ไปเป็น Extra นะจ๊ะ แต่ถ้าให้เป็น Extra ก็ไปจ้างงานละครก็ยังรับ นี่เดี๋ยวไปประชุมทำไตเติลลิขิตแห่งจันทร์ต่อ รับจ้างทั่วราชอาณาจักร วิถีฟรีแลนซ์”


เมื่อได้รับการเผยแพร่ออกไป คุณแก้ว หรือ คุณวรรณกวี อยู่วัฒนา วัย 36 ปี ก็กลายเป็นที่พูดถึงสื่อต่างๆ โทรจองคิวสัมภาษณ์ ทำข่าวกันสายแทบไหม้ ที่สำคัญมีคนต่อคิวใช้บริการล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ ด้วย ก่อนที่จะมาเป็นแท็กซี่ คิวทอง คนจองแน่นทุกวันนี้แบบนี้ คุณแก้วลุยงานเบื้องหลังมานานมากกว่า 10 ปี เป็นเลขาผู้จัดละคร ประสานงาน ผ่านละครมานับไม่ถ้วน ที่สำคัญโปรไฟล์ดีมาก จบคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาศิลปการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 


คุณแก้วเล่าว่า ชีวิตเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ปัญหาสุขภาพจากการโหมงานหนัก 16 ชั่วโมง สมัยทำกองละคร สะสมมานานหลายปี ทำให้ตัดสินใจยุติการทำงานเบื้องหลัง แล้วเปลี่ยนอาชีพด้วยการมาขับแท็กซี่กับแม่ เพราะแม่ก็ขับมาก่อน รถคันนี้เพิ่งก็ดาวน์มา 4 เดือน โดยคุณแก้วขับกะกลางวัน แม่ขับกะกลางคืน แม้จะผ่านมาหลายเดือนแล้วที่ตัวเองกลายเป็นที่รู้จัก แต่ลูกค้าใหม่ก็มักจะมีคำถามเสมอ ว่า “จบจุฬาฯ ทำไมมาขับแท็กซี่ล่ะ ไม่เสียดายวิชาความรู้หรือ”

เธอเล่าว่า ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร จะอยู่ในสถานะใด ก็สามารถใช้ความรู้ที่ครูอาจารย์สอนมาให้เกิดประโยชน์ได้ ส่วนลูกค้าคนแรกที่โทรฯ มาจอง คือ อาจารย์ที่เคยสอน ซึ่งจะเดินทางไปสนามบิน ต่อมาก็เป็นรุ่นน้องที่คณะอักษรศาสตร์ เหมาไปเที่ยวพัทยา จนเหมือนกับเราพาน้องๆ เที่ยว คือไ ปกันแบบเรื่อย ๆ เราได้งาน ได้เงิน แถมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับน้องๆ และยังได้อัพเดทข้อมูลข่าวสารในวงการที่เราเคยทำงานด้วย ส่วนน้องก็ได้คนขับที่ไว้ใจ ได้เพื่อนคุยด้วย ซึ่งก็สนุกดี

แรงบันดาลใจที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกอาชีพนี้ เพราะคุณแม่ขับแท็กซี่มานานกว่า 10 ปี ซึ่งคุณแม่ทำให้เห็นว่าอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่มั่นคงได้ ที่สำคัญไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด และถึงแม้จะเป็น “โชเฟอร์ผู้หญิง” แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แถมเธอยังได้เปรียบ เพราะลูกค้าผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ จะรู้สึกอุ่นใจที่นั่งแท็กซี่ที่มีคนขับเป็นผู้หญิง แต่หลังจากที่โด่งดังเป็นกระแสในโลกโซเชียล นอกจากคนจะชมแล้ว กับมีอีกมุม “ดราม่า” เกิดขึ้นด้วย โดยเธอเล่าว่า มีคนเข้ามาแสดงความเห็นและต่อว่า…ว่าเธอเรียนจบมาตั้งสูง แต่กลับมาแย่งงาน แย่งอาชีพคนไม่มีความรู้ ทำเอาเธออึ้ง…ว่ามีคนที่คิดอะไรแบบนี้ด้วยหรือ?? ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจ…

 

“มีลูกค้าแปลก ๆ ไหม?” เราถามเธอเรื่องนี้ คุณแก้ว ยิ้มพร้อมบอกว่า ตั้งแต่ทำอาชีพนี้มา เธอโชคดี เพราะยังไม่เคยเจอลูกค้าพูดจาไม่ดี พูดจีบ หรือลวนลาม เคยเจอแต่ลูกค้าใจร้อน อยากไปถึงที่หมายเร็ว ๆ ขณะที่เธอขับไม่เร็ว และเพิ่งขับได้ไม่นานจึงไม่ค่อยรู้เส้นทาง จึงต้องอาศัยลูกค้าคอยบอก เลยทำให้ไม่ค่อยถูกใจ ทำให้เธอโดนหงุดหงิดใส่ แต่ก็ไม่เป็นไร ส่วนถ้าถามว่า “อายไหม?” ถ้าต้องเจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน เธอย้ำว่า…ไม่อายค่ะ”

มีบ่อย ๆ ที่เจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละคนก็ทำงานดี ๆ เงินเดือนเยอะ ๆ แต่งตัวสวย ๆ ขณะที่เราขับแท็กซี่ แต่บอกเลยว่าไม่อาย และไม่รู้สึกอะไร แถมตั้งแต่เป็นข่าวก็มีแต่คนชื่นชม โดยเฉพาะเพื่อน ๆ รุ่นพี่ และอาจารย์ ที่เข้ามาอุดหนุนเป็นลูกค้าเราด้วยซ้ำ และยังมีที่โทรศัพท์มาให้กำลังใจ บอกว่าภูมิใจที่เราทำให้ภาพลักษณ์มหาวิทยาลัยดูดีขึ้น เพราะไม่เลือกงาน ไม่ใช่เรียนจบแล้วแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ 

สำหรับรายได้คุณแก้ว บอกว่า แต่ละวันไม่แน่นอน แต่โดยเฉลี่ยเมื่อหักค่าน้ำมัน ค่ากิน ก็จะมีรายได้ประมาณ 700-1,000 บาท อาจจะไม่มากมายเท่าสมัยทำละครซึ่งเธอยืนยันว่า อยู่ได้สบาย ๆ แต่สมัยที่แท็กซี่ล้นเมือง ถามว่ามีเทคนิคหาลูกค้ายังไง เธอก็บอกว่าใช้วิธีผูกปิ่นโต คุณแก้วย้ำว่า ทุกอาชีพมันก็มีต้นทุน มีราคาที่ต้องจ่าย อย่างขับแท็กซี่ก็ใช้แรงงาน เป็นงานบริการ แต่ก็เครียดอะไรน้อยกว่าอีกหลายอาชีพ เพียงเราทำหน้าที่ขับรถไปส่งลูกค้าให้ถึงที่หมาย ก็ถือว่าภารกิจสำเร็จแล้ว ยืนยันผ่านมา 4 เดือน ชีวิตตอนนี้มีความสุขดี เพราะยังได้ทำงานที่ตัวเองรัก อย่างเขียนบทละคร บทความ งานรีเสิร์ช แบบฟรีแลนซ์ ขณะเดียวกันก็มีอาชีพขับรถแท็กซี่เป็นอาชีพหาเลี้ยงตัว เป็นอาชีพสุจริต ที่มีอิสระในการทำงาน มีเวลาพักผ่อน และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งทุกคนที่รู้จัก โดยเฉพาะแฟน ก็สนับสนุนเส้นทางชีวิตเส้นนี้ของเธอเป็นอย่างดี

แฟนคุณแก้วเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาก็สนับสนุนเต็มที่ โดยบอกว่า… อะไรที่คิดว่าทำได้และดี ก็ทำไป เพราะเขาเข้าใจดีว่าเรามีภาระ ซึ่งแฟนยังบอกอีกว่า ขอให้รักทุกงานที่ทำก็พอ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม เพราะไม่มีงานไหนที่ด้อยไปกว่ากัน ขอเพียงเป็นอาชีพที่ไม่เบียดเบียนใคร เป็นงานที่ไม่ได้คดโกงใคร จะงานอะไรก็มีเกียรติเท่ากันหมด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]