กรุงเทพฯ 30 ก.ย.- ผอ.สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เผยรถที่ขับเร็ว แรง และยิ่งบรรทุกคนหรือสิ่งของมาจำนวนมาก ยิ่งทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ จะมีแรงเหวี่ยง แรงปะทะมากตามไปด้วย เช่น ถูกปะทะด้วยความเร็ว 60 กม./ชม. เท่ากับตกตึก 5 ชั้น ขณะที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เท่ากับตกตึก 19 ชั้น
สำนักข่าวไทย สอบถามไปยังนายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ถึงแรงปะทะ แรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเหตุรถกระบะพลิกคว่ำดับ 13 ศพ บริเวณถนนกิ่งแก้ว โดยพบว่า รถที่ขับเร็ว แรง และยิ่งบรรทุกคนหรือสิ่งของมาจำนวนมาก ยิ่งทำให้เมื่อเกิดเหตุจะมีแรงเหวี่ยง แรงปะทะที่มากตามไปด้วย และยิ่งคนขับมีอาการมึนเมาร่วมด้วย ก็จะยิ่งส่งผลให้การควบคุมรถทำได้ยากและเสี่ยงสูง
เปรียบเทียบความเร็วของรถ ยิ่งเร็ว ยิ่งเสี่ยง เทียบเท่ากับการตกจากตึกสูง เพราะการขับด้วยความเร็วสูง แรงปะทะเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็สูงตามไปด้วย เช่น ถูกปะทะด้วยความเร็ว 60 กม./ชั่วโมง เท่ากับตกตึก 5 ชั้น, ขับด้วยความเร็ว 80 กม./ชั่วโมง เท่ากับตกตึก 8 ชั้น, ความเร็ว 100 กม./ชั่วโมง เท่ากับตกตึก 13 ชั้น, ความเร็ว 120 กม./ชั่วโมง เท่ากับตกตึก 19 ชั้น
ทั้งนี้ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุเตรียมเสนอกระทรวงคมนาคม กำหนดให้รถกระบะที่บรรทุกคนต้องมีตัวถังกั้นสูงจากขอบกระบะประมาณ 1 เมตร พอที่จะปกป้องชีวิตได้ หากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง.-สำนักข่าวไทย