“อุตตม” ดึงกรมบัญชีกลางร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

กรมบัญชีกลาง 27 ก.ย. – “อุตตม” ดึงกรมบัญชีกลางร่วมพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก คลังเตือนผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ใช้จ่ายเงินท่องเที่ยว หากซื้อสินค้าและบริการทั่วไปใช้ได้เพียง 1 พันบาท ขณะที่  สศค.ย้ำหากไม่ได้รับ SMS ถือว่าไม่ผ่านการตรวจสอบเปิดทางให้ลงทะเบียนอีกรอบ 



นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมมอบนโยบายกับผู้บริหารกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากสวัสดิการรัฐ เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลเน้นขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐสร้างไทย เพื่อดูแลเศรษฐกิจในประเทศให้มีความเข้มแข็ง 


นายชาญกฤช เดชวิทักษ์  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติหน้าที่กระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยว และกระจายไปยังต่างจังหวัด ไม่ใช่หวังใช้จ่ายเงินสำหรับซื้อสินค้าทั่วไป และวันนี้เป็นวันแรกผู้ได้รับ SMS ยืนยันผลการตรวจสอบความถูกต้องเริ่มออกไปใช้เงิน 1,000 บาท ขณะที่ร้านค้าใหม่ที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ ล่าสุด 74,816 ราย  โดยร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 1. ร้านค้าผู้ลงทะเบียนร้านชิม ได้แก่ สินค้าอาหาร ทั้งร้านอาหารส่วนราชการ สวัสดิการ ร้านอาหารจดทะเบียนพาณิชย์  

2.ร้านช้อป เป็นสินค้าและบริการทั่วไป ซื้อสินค้าได้เฉพาะวงเงิน 1,000 บาทเท่านั้น ดังนั้น ผู้ต้องการซื้อสินค้าในร้าน ทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือ สินค้าต่าง ๆ แม้ราคาจะสูง แต่ใช้แอป “เป๋าตัง” ซื้อได้เพียง 1,000 บาท ส่วนที่เหลือให้เติมเงินเข้าไป หรือใช้เงินสดซื้อเพิ่มเติม แต่จะไม่ได้รับคืนส่วนลด 15 % เนื่องจากร้านค้าประเภทสินค้าและบริการทั่วไปให้รับเงินได้เฉพาะ G-Wallet 1 เท่านั้น  ส่วนร้านค้าท้องถิ่น สินค้าโอทอป วิสาหกิจชุมชนที่ติดป้ายร่วมโครงการขายสินค้าได้ทุกประเภท ทั้ง G-Wallet 1 และ 2  


3. ร้านค้าลงทะเบียน “ใช้” เป็นประเภทที่พัก โรงแรม โฮมสเตย์ ทัวร์ รถนำเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น สปา ร้านค้ากลุ่มนี้รับชำระเงินได้ทั้ง ประเภท ทั้ง G-Wallet 1 และ 2 กระทรวงการคลังจึงแนะนำนักท่องเที่ยวให้ระวังการใช้เงินประเภทร้านค้าที่ 2 เช่น ซื้อมือถือ ซื้อทองคำ ซื้อได้แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม เพราะรัฐบาลต้องการให้ใช้เงินกระจายออกไปในต่างจังหวัด เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวกระจายไปทั่วประเทศ   

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ลงทะเบียนวันแรก (23 ก.ย.) ได้รับ SMS ยืนยันหลังจากตรวจสอบความถูกต้องทะเบียนราษฏร์การออกไปเที่ยวไม่ตรงกับทะเบียนบ้านสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวจังหวัดนอกสำเนาทะเบียนบ้านในวันแรกตามที่ลงทะเบียนไว้  ย้ำว่าหากไม่ได้รับ SMS ให้ลงทะเบียนใหม่อีกรอบในกลุ่ม 200,000 คน เพราะการได้รับเมล์ลงทะเบียนสำเร็จถือว่าขั้นตอนการลงทะเบียนสมบูรณ์ แต่การได้รับ SMS เป็นการยืนยันว่าผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง  เพราะยังเปิดให้ลงทะเบียนถึง 15 พฤศจิกายนนี้ โดยรัฐบาลต้องการเน้นให้ใช้มือถือ 1 เครื่อง ลงทะเบียน 1 สิทธิ์ ใช้จ่าย 1 คน ขณะนี้ผู้ได้รับผ่านการตรวจสอบ 800,000 คนได้โหลดแอป “เป๋าตัง” ไปแล้วร้อยละ 80 ยอมรับว่าวันแรกยังใช้จ่ายไม่สูงมากนัก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง