“น้ำอุ่น” เครียด นอนคุกคืนแรก ราชทัณฑ์รอปรับตัวก่อนส่งเข้าแดนที่เข้มงวดขึ้น

กรมราชทัณฑ์ 27 ก.ย. – อธิบดีราชทัณฑ์ เผย “น้ำอุ่น” นอนคุกคืนแรก มีอาการเครียด แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง วันนี้พ่อแม่มาเยี่ยมอาจคลายความกังวลลงได้บ้าง  โดยในช่วงแรกต้องเรียนรู้ระเบียบเรือนจำ เพื่อให้ปรับตัวก่อนส่งไปอยู่ในแดนที่มีการควบคุมเข้มงวดขึ้น

พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณี  นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น วงศ์ทะบุตร อายุ 25 ปี  ที่ถูกส่งตัวมาเข้าเรือนจำธนบุรีเมื่อคืนนี้ ว่า  ได้รับรายงานจากทางเรือนจำธนบุรี ว่า หลังจากรับตัวนายรัชเดชแล้ว ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนปกติของผู้ต้องขังใหม่ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งต้องตัดผมสั้น  ตรวจสุขภาพ  เปลี่ยนเครื่องต่างกายเป็นชุดของทางราชทัณฑ์ ถ่ายรูป ทำประวัติ  ปฐมนิเทศก์และอบรมให้เข้าใจกฎระเบียบของเรือนจำ  ซึ่งการเข้ามาในเรือนจำในคืนแรก อาจจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะจะเครียดเหมือนกันกับผู้ต้องขังอื่นทุกราย แต่ไม่มีอาการรุนแรงถึงขั้นร้องห่มร้องไห้หรืออาละวาดใดๆ โดยส่วนนี้จะมีเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงคอยดูแลให้คำปรึกษาในการปรับตัว ซึ่งเป็นการปฎิบัติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ยึดหลักเท่าเทียมกันและเคารพในสิทธิมนุษยชน

โดยในช่วงแรก นายรัชเดช ถูกแยกขังอยู่ในแดนแรกรับ เพื่อให้เวลาในการปรับตัว จากนั้นจะย้ายไปควบคุมตัวในแดนที่มีการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้นต่อไป

ด้านนายสมภพ รุจจนเวท ผบ.เรือนจําพิเศษธนบุรี เผยว่า ทางเรือนจำได้รับตัวตัวนายรัชเดช เมื่อเย็นวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ให้พยาบาลตรวจร่างกายก็ไม่พบมีโรคประจำตัวใดๆ และมีสุขภาพแข็งแรงดี นอกนั้นมีการให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าไปพูดคุยและสอบถามประวัติ เพื่อให้นายรัชเดชคลายกังวล ซึ่งหลังเข้ามาเรือนจำผู้ต้องขังมีอาการงงๆอยู่บ้าง จะมีการกังวลเรื่องการปรัวตัว เพราะต้องมีการทำกิจกรรมและตื่นตามตารางเวลาที่กำหนด รวมถึงเรื่องอาหารการกินต้องปรับตัว เป็นปกติของผู้ต้องขังใหม่ที่เข้ามาใหม่ 

หลังจากนั้นได้นำตัวนายรัชเดชไปไว้แดน 2 ซึ่งเป็นแดนควบคุมพิเศษ ซึ่งเป็นแดนที่มีจำนวนผู้ต้องขังไม่มาก ทำให้ผู้คุมคอยดูแลและควบคุมอย่างใกล้ชิดได้ ประกอบกับมีกล้องวงจรปิดคอยตรวจสอบด้วย นอกจากนี้เมื่อช่วงเช้าวันนี้  ได้รับรายงานว่าบิดาและมารดาได้มาเยี่ยมนายรัชเดชคงทำให้ผู้ต้องขังสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่งได้ ส่วนหลังจากนี้จะจำแนกนายรัชเดชไปไว้แดนอื่นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าจะโดนโทษมากน้อยแค่ไหน หากเกิน 6 ปี อาจมีการปรับให้ไปอยู่แดนอื่น ตามความเหมาะสมต่อไป.-สำนักข่าวไทย