นครนิวยอร์ก 27 ก.ย.- รัฐมนตรีต่างประเทศคูเวตหารือทวิภาคีรัฐมนตรีต่างประเทศไทย เผย สนใจแรงงานไทย พร้อมเตรียมตั้งกรรมการร่วมไทย-คูเวตระดับรัฐมนตรี ผลักดันความร่วมมือต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม คาดลงนามได้ปีนี้ หรือปีหน้า
นายดอน ปรมัตถ์วินัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทวิภาคีกับ Sheikh Sabah Al-Khaled Al-hameg Al-sabah รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศคูเวต ในระหว่างเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 74 ที่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดย น.ส.บุษฏี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวง การต่างประเทศ เปิดเผย ว่า ไทยกับคูเวตมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมา 56 ปี และทั้ง 2 ฝ่ายยังหาช่องทางที่จะเพิ่มพูลมูลค่าการค้าการลงทุนให้มากขึ้น
“คูเวตสนใจที่จะร่วมมือกับไทย ในด้านเกษตรกรรมและการประมง เพราะเห็นว่าไทยสามารถแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการประมงอย่างยั่งยืน จึงอยากเรียนรู้จากประเทศไทยมากขึ้น และเห็นช่องทางที่ให้ประชาชนของ 2 ประเทศมีการติดต่อกัน จึงจะส่งเสริมการท่องเที่ยวและความร่วมมือด้านวิชาการ” น.ส.บุษฎี กล่าว
น.ส.ยุษฎี กล่าวว่า รัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศเห็นตรงกันที่จะผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรม จึงมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการร่วมของ 2 ประเทศในระดับรัฐมนตรี และหวังว่าจะลงนามได้ภายในปีนี้ หรือปีหน้า เพื่อใช้เป็นกลไกในการติดตาม หรือเสนอแนะในการผลักดันความร่วมมือต่างๆ ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
“รัฐมนตรีต่างประเทศของคูเวตยังบอกว่า ต้องการแรงงานจากไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานไทย ในคูเวตประมาณ 3000 คน หากมีคณะกรรมาธิการร่วมของ 2 ประเทศ จะช่วยทำให้สามารถติดตามผลและข้อเสนอแนะต่างๆให้เป็นรูปธรรมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” น.ส.บุษฎี กล่าว และว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้เชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของคูเวตมาเยือนไทย เพื่อจะได้มีโอกาสตามประเด็นที่ติดตามสนใจร่วมกันด้วย
น.ส.บุษฎี กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในกรอบพหุภาคี ทั้งไทยและคูเวต เป็นสมาชิกของประเทศคู่เจรจาในกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศคูเวตชื่นชมไทยที่เป็นผู้นำเสนอกรอบนี้ และผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในความร่วมมือต่างๆ และยังได้สอบถามถึงสถานการณ์ในภูมิภาค ทั้งการเป็นประธานอาเซียนของไทย และสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยได้ชี้แจงถึง บทบาทของอาเซียน ในความพยายามแก้ไขปัญหาผู้พลัดถิ่นในยะไข่ด้วยการเจรจา . – สำนักข่าวไทย