นาฬิกาอัจฉริยะกับการไขปมเสียชีวิต

กทม. 23 ก.ย.-ปัจจุบัน Smart Watch คือนาฬิกาอัจฉริยะที่เป็นที่นิยม โดยนาฬิกาสามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ซึ่งมีการเชื่อมต่อข้อมูลกับสมาร์ทโฟนด้วย ด้านแพทย์ให้ความรู้ว่าการบันทึกข้อมูลชีพจรของผู้สวมใส่ที่มีการเก็บเป็นสถิติก็สามารถช่วยวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่อาจผิดปกติของผู้สวมใส่ได้ แต่ก็เป็นเพียงการตรวจวัดเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งยังมีข้อมูลว่าการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากๆ ในช่วงเวลาสั้น ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วและเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายได้

นาฬิกา Smart Watch เครื่องนี้กำลังวัดชีพจร บอกอัตราการเต้นหัวใจของผู้สวมใส่ได้ ณ ขณะนั้น และจะแจ้งเตือนหากระดับชีพจรเต้นอ่อนหรือแรงเกินไป แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยชีวิตฉุกเฉินบอกว่าการบ่งบอกถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติอาจบ่งชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของระบบหัวใจและการไหลเวียนของเลือดในร่างกายได้ ซึ่งผู้นั้นควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

ปัจจุบัน Smart Watch มีหลายรุ่นหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นกว่าบาท ใช้งานได้ตั้งแต่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดอุณหภูมิในร่างกาย บางรุ่นสามารถวัดความดันโลหิตไปจนถึงตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ ส่วนความน่าเชื่อถือของข้อมูลนั้น แพทย์อธิบายว่าอยู่ที่หลักการทำงานของอุปกรณ์แต่ละยี่ห้อ ความแม่นยำอาจจะแตกต่างกัน แต่อย่างน้อยหากใส่เป็นประจำก็ดูจากสถิติที่บันทึกไว้ได้ เช่น อัตราการเต้นหัวใจจะมีการเชื่อมต่อข้อมูลกับสมาร์ทโฟนเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ ซึ่งหากพบการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ หรือหากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ก่อนจะแผ่วลงจนหัวใจหยุดเต้นเมื่อเสียชีวิต ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจากสมาร์ทโฟนของผู้นั้นที่เชื่อมระบบกัน

แพทย์ยังอธิบายว่าอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ตามปกติมักเกิดกับผู้ที่มีอายุมากและเป็นโรคหัวใจ ส่วนในวัยอื่นๆ มักเกิดกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือกรรมพันธุ์ คนในครอบครัวเคยมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ใช้ชีวิตเสี่ยง ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ แพทย์ยังอธิบายว่าการดื่มเหล้าปริมาณมากๆ ในระยะเวลาสั้น หากเป็นผู้ที่ไม่เคยดื่มมากมาก่อนก็เสี่ยงที่จะเกิดหัวใจวายได้ จากภาวะการกดประสาทของร่างกาย

แพทย์บอกด้วยว่าผู้ที่มีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์จนเมา และเมาและไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของตนเองอย่างยิ่ง ขณะที่การเรียนรู้จากการสังเกตอาการของผู้อื่นเพื่อช่วยชีวิต เช่น หากเริ่มเห็นหายใจเป็นเฮือกๆ ตัวเย็น ปากและเล็บมีสีเขียวออกดำคล้ำ ต้องได้รับการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือการทำซีพีอาร์ได้ทันท่วงที ซึ่งอาจช่วยหยุดการเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง