1 ต.ค.เริ่มจ่ายเงินส่วนต่างสวนปาล์ม

พังงา 23 ก.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ประกาศ 1 ตุลาคม จ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ชาวสวนปาล์มงวดแรก 



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะพบปะเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา อำเภอเมือง จังหวัดพังงา โดยกล่าวย้ำถึงโครงการสร้างการรับรู้การประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน พร้อมประชุมชี้แจงมาตรการประกันรายได้ถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการดำเนินโครงการเพื่อชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2562-2563 


ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งใจช่วยเกษตรกร โดยมีการประกันรายได้เกษตรกรทั้งหมด 5 ชนิดของพืช คือ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดนั้น เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนและจะต้องได้รับเงินส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาตลาดตามพื้นที่ปลูกจริงไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ ต้องเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้วมีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี และเป้าหมาย คือ ผลปาล์มทะลายคุณภาพน้ำมัน 18% โดยประกันรายได้กิโลกรัมละ 4 บาท


อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 ตุลาคม 2562 จะเป็นวันแรกที่เงินส่วนต่างในโครงการจะถึงมือเกษตรกร โดยจะนำราคาที่ประกันรายได้ไว้เป็นตัวตั้งลบด้วยราคาตลาดในช่วงเวลานั้น โดยราคาตลาดอ้างอิงจะมีการกำหนดโดยคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มเท่ากันสำหรับทุกจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิต ซึ่งการจ่ายเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรเป็นงวด ๆ ละ 45 วัน เริ่มจ่าย 1 ตุลาคม 2562 การขึ้นทะเบียนของเกษตรกรจะต้องประสานงานกับกรมส่งเสริมการเกษตรและจะมีการส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ปรับปรุงแล้วให้กับ ธ.ก.ส.ก่อนจะจ่ายเงิน โดยระหว่างนี้กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการเกษตร ธ.ก.ส.และกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กำลังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อประชาสัมพันธ์ชี้แจงประชาชน 

สำหรับมาตรการเสริมที่จะทำให้ปาล์มน้ำมันสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการใช้มิเตอร์วัด ถังเก็บน้ำมันปาล์ม มาตรการป้องกัน การลักลอบมาสวมสิทธิ์ มาตรการส่งเสริมการใช้บี 10 ภาคบังคับ และบี 20 เป็นทางเลือก รวมทั้งการใช้ปาล์มในการผลิตไฟฟ้าด้วย 

ส่วนยางพารานั้น ได้หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกรทรวงเกษตรฯ ว่า วันที่ 4 ตุลาคมนี้ จะมีการนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อเร่งดำเนินการให้มีการประกันราคายางให้พี่น้องเกษตรกรเร็วที่สุด ต้องยอมรับว่าปริมาณปาล์มที่ปลูกในประเทศมีมากกว่าความต้องการใช้ในประเทศ ทำให้ราคาปาล์มตกต่ำ กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการแก้ไข คือ รัฐบาลจะส่งเสริมให้คนไทยใช้บี 10 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 ทั่วประเทศ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งมาตรการส่งออกและเข้มงวดกับการลักลอบนำเข้าโดยใช้มาตรการเด็ดขาด และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำไปเผา เพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า เชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะสามารถสร้างสมดุลให้กับราคาปาล์มภายในประเทศ ทำให้ราคาปาล์มกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง