มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 21ก.ย.- “อนุทิน” รองนายกรัฐมนตรี ปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 12,000 ต้น พันธุ์อิสระ01 เป็นสายพันธุ์ไทยแท้ ผลิตน้ำมันกัญชาได้ล้านขวด ย้ำกัญชาวันนี้ยังปลูกในบ้านไม่ได้ แต่ในอนาคตจะกลายเป็นยาคู่บ้าน คล้ายสมุนไพรไทยคู่ครัว คาดผลิตน้ำมันกัญชาได้จริง ก.พ.63 และช่วยคนไข้ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000คน ด้านนักวิชาการ ชี้การปลูกเน้นในโรงเรือน แบบเกษตรอินทรีย์และเตรียมต่อยอดงานวิจัยหวังต่อไปปลูกนอกโรงเรือน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และ ผศ.พาวิน มะโนชัย รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วย ศ.ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวถึงความพร้อมการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ 12,000 ต้นที่โรงเรือนของมหาวิทยาลัย ว่า การปลูกกัญชาทางการแพทย์เป็นความตั้งใจของ 3 สถาบัน ได้แก่ องค์การเภสัชกรรม , กรมการแพทย์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วันนี้ยังไม่สามารถปลูกได้ 6 ต้น จนกว่าประชาชนจะเข้าใจเรื่องกัญชาอย่างแท้จริง ว่าส่วนไหนมีประโยชน์ เพื่อต่อไปกัญชาจะกลายเป็นพืชสมุนไพร หลังบ้านคู่บ้านประชาชน เปรียบได้กับ พืชผักสวนครัวในบ้าน เท่ากับกะเพรา โหระพา มะนาว พริก
ขณะเดียวกันต่อไป ประชาชนก็มีสมุนไพรรักษาตัวได้เอง ลดต้นทุนการรักษา เดิมพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนกัญชาแต่เมื่อทีมที่ปรึกษา ทีมยุทธศาสตร์พรรค พยายามอธิบายตนจึงเข้าใจ และนำมาเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยจากเดิม ส.ส.14 คน จนพรรคเป็นที่รู้จักและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนได้รับการเลือกตั้ง ยืนยันไม่ได้บอกว่ากัญชารักษามะเร็งได้ แต่ช่วยคุณภาพชีวิตดีขึ้น ฉะนั้นการทำวันนี้ปลูกกัญชาทางการแพทย์จึงเป็นการทำประโยขน์ ถ้าใช้อย่างถูกวิธี และเชื่อว่าช่วยรักษาชีวิตประชาชนไม่ต่ำกว่า 1,000 คน
ผศ.พาวิน กล่าวว่า กัญชานี้เป็นกัญชาสายพันธุ์ไทยอิสระ 01 ที่คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ปลอดสารปนเปื้อน และไม่ติดสิทธิบัตรและเตรียมขอจดสิทธิบัตรกับกรมวิชาการเกษตรและจะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ในโรงเรือน 3,040 ตารางเมตรที่ได้มาตรฐาน IFOAM (ไอฟง) ซึ่งจะเป็นกัญชารุ่นแรก จากนั้นจะพัฒนาสายพันธุ์โดยนักวิจัย ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้ กัญชาพันธุ์อิสระ01 จะสามารถจะเก็บเกี่ยวได้ในอีก 4 เดือน หรือประมาณ กุมภาพันธ์ 2563 โดยกัญชา 1 ต้น จะได้ดอกสด 200 กรัม 10 กิโลกรัมจะได้1กิโลกรัม รวมดอกสด 24,000 กิโลกรัม จากนั้นต้องอบแห้ง จะได้ 2,400 กิโลกรัม ในอนาคตเตรียมปลูกขยายไปนอกโรงเรือนและพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงมากขึ้นเพื่อในอนาคตชาวบ้านสามารถนำไปต่อยอดได้
ศ.ดร.อานัฐ กล่าวว่า การปลูกครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้เตรียมพร้อมสำหรับระดับอุตสาหกรรม เพื่อส่งมอบกัญชา 1 ล้านขวด ขนาด 5 ซีซี ให้กับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนความห่วงกังวลเป็นเรื่องของสภาพอากาศ เพราะการปลูกในโรงเรือน ได้รับความชื้นสูง จะมีศัตรูพืชสูง ต้องควบคุมแสงให้ดี ขณะเดียวกันกัญชาพันธุ์ไทยจำเป็นต้องศึกษาวิจัยมาก เพราะไทยขาดองค์ความรู้มา 50 ปีเนื่องจากเป็นยาเสพติด เบื้องต้นกัญชาเป็นพืชต้องการแดด และความชื้นเหมาะสม แต่กฎหมายกำหนดให้ ปลูกในโรงเรือน จึงต้องทำให้ต้องทำให้กัญชามีความเครียด ใช้ความร้อน และความชื้นต่ำ เมื่อเจริญเติบโตระยะหนึ่ง เพื่อให้ได้สารสำคัญที่ต้องการและจะต้องมีการตรวจสอบซ้ำถึงระดับดีเอ็นเออีกครั้ง ขณะนี้มีกัญชาถึง 6สายพันธุ์ที่ต้องพัฒนาเพื่อให้ได้ทั้ง THC และCBD ในขนาดที่แตกต่างกัน และตามมาตรฐาน แต่สำหรับมหาวิทยาลัยเตรียมพัฒนาสายพันธุ์ให้เกิดพันธุ์แม่โจ้01 เพื่อให้เป็นสายพันธุ์ไทย.-สำนักข่าวไทย
