ครม.เศรษฐกิจผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 2 ล้านล้านบาท

ทำเนียบฯ 20 ก.ย. – ครม.เศรษฐกิจเดินหน้าผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 2 ล้านล้านบาท  เร่งรัดอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ  


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เลขานุการ คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจพิจารณาผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล วงเงินลงทุนรวม 1.947 ล้านล้านบาท เพื่อให้ทุกโครงการมีความคืบหน้าและลงทุนตามแผนที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะการใช้โอกาสเงินบาทแข็งค่านำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรเข้ามาลงทุนในประเทศ และยังเป็นแรงผลักดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากช่วงนี้เป็นโอกาสทองของไทยในการดึงการลงทุนเข้ามาในประเทศรองรับการย้ายฐานการผลิตมายังไทย 

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมเสนอผลักดันแผนการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม เชื่อมฝั่งตะวันตก- ตะวันออก วงเงินลงทุน 122,000 ล้านบาท บรรจุไว้ในงบประมาณปี 2563 หากก่อสร้างเสร็จเชื่อมโยงครอบคลุมร่วมกันรองรับผู้โดยสารได้ถึง 500,000 คนต่อวันในปี 2569 เมื่อนำมาหารือใน ครม.เศรษฐกิจได้เคลียร์ปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องกรอบวินัยการเงินการคลัง จึงเป็นอีกโครงการลงทุนขนาดใหญ่จะขยายแผนก่อสร้างได้เพิ่มเติม หลังจากหารืออีก 2-3 รอบ น่าจะเสนอ ครม.ชุดใหญ่พิจารณาแผนลงทุนได้ 


สำหรับการผลักดันแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล วงเงินลงทุนรวม 1.947 ล้านล้านบาท จำนวน 44 โครงการ แบ่งเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดิน 259,791 ล้านบาท เงินกู้ 1.2 ล้านล้านบาท ร่วมลงทุนแบบ PPP วงเงิน 338,810 ล้านบาท และใช้เงินจากกองทุนและรายได้รัฐวิสาหกิจ 147,654 ล้านบาท ตามแผนลงทุนเริ่มโครงการและเบิกจ่ายไปแล้วปี 2561 จำนวน 210,788 ล้านบาท ปี 2562 เบิกจ่าย 90,254 ล้านบาท เตรียมเบิกปี 63 วงเงิน 206,040 ล้านบาท โครงการลงทุนเหล่านี้ ครม.อนุมัติแผนลงทุนไปแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 17 โครงการ ครม.อนุมัติแล้วอยู่ระหว่างเตรียมการลงทุน 12 โครงการ ส่วนโครงการคณะกรรมการPPP เห็นชอบแล้วเตรียมเสนอ ครม.พิจารณา 2 โครงการ วงเงิน 200,000 ล้านบาท ส่วนโครงการเตรียมเสนอ ครม.ในช่วงต่อไป จำนวน 13 โครงการ วงเงิน 551,170 ล้านบาท 

ส่วนโครงการลงทุนที่ต้องเร่งแก้ปัญหาอุปสรรค เช่น มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ต้องใช้เงินเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม ส่วนด่านเชียงของ ต้องชดเชยค่าตอบแทนค่าธรรมเนียม ที่ดิน ส.ป.ก.เพิ่มเติม  เส้นทางมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ รอการหารือกับกฤษฎีกาทบทวนแผนลงทุนเพิ่มเติม โครงการลงทุนพัฒนาศูนย์ซ่อมเมืองการบินภาคตะวันออก การบินไทยเตรียมลงนามสัญญากับต่างชาติปลายปี ส่วนการลงทุนสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน กลุ่มซีพีและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมลงนามเร็ว ๆ นี้ เมื่อโครงการขนาดใหญ่เดินหน้าขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่จะทำให้เม็ดเงินลงทุนเริ่มออกสู่ระบบ เพื่อสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็งในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย