“คุณหญิงสุดารัตน์” นำทีม ส.ส.เพื่อไทย ลงพื้นช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

อุบลราชธานี 20 ก.ย.-“คุณหญิงสุดารัตน์” นำทีม ส.ส.เพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.อุบลฯ ระบุ ส.ส.ต้องอยู่กับประชาชน ไม่ใช่หน้าที่ต้อนรับนายกฯ ถามย้ำทำไมไม่ใช้งบฉุกเฉินช่วยประชาชน


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นางลาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.อุบลราชธานี ประกอบด้วย นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ เขต1 น.ส.กิตติ์รัญญา วาจาดี ส.ส.เขต 3 นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส.เขต 4 นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ส.ส.เขต 5 นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.เขต 7 นายประภูศักดิ์ จินตเวช  ส.ส. เขต 9 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส. เขต 10 อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รวมถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากทุกภาคกว่า 30 คนร่วมลงพื้นที่เพื่อระดมกำลังช่วยเหลือประชาชน จ.อุบลราชธานี ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ตั้งแต่เขต อ.เมือง อ.เขื่องใน อ.วารินชำราบ อ.ตาลสุม ไปจนถึง อ.พิบูลมังสาหาร

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หน้าที่และจิตสำนึกของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่น้ำเริ่มท่วม ทุกคนอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่แต่ จ.อุบลราชธานี หรือพื้นที่ที่น้ำท่วม แต่ทุกพื้นที่ทำงานอย่างหนัก เราอยู่กับประชาชนยามที่ประชาชนมีความทุกข์


“หน้าที่รับนายกฯ ไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส. หน้าที่การเอาอกเอาใจนายกฯ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส.เพื่อไทย หน้าที่ ส.ส.ของเราคือการไปเอาอกเอาใจประชาชน ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกอะไรที่ ส.ส.อุบลฯ จะยุ่งกับการช่วยเหลือประชาชน ตัวเราเองไม่เคยพูดถึงนายกฯ เลย เราก็ทำงานของเรา การประสานงานก็ประสานผ่านสภาฯ ถ้านายกฯ อยากทำงานให้ประชาชน ก็นำความเดือดร้อนที่ฝ่ายค้านได้สะท้อนในสภาฯ ไปดำเนินการแก้ไข วันนี้ชาวบ้านไม่มีใครลงไปช่วย ซึ่งการที่ ส.ส.ของเราลงไปร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ เราทำงานด้วยกันอยู่ทุกวัน แต่กลับเป็นวันที่นายกฯ มาลงพื้นที่เสียอีกที่ข้าราชการต้องมารอรับนายกฯ ไม่มีใครอยู่กับชาวบ้าน เวลาชาวบ้านเดือดร้อน เราไม่เคยคิดแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งฝ่ายอยู่แล้ว และไม่เคยอยากจะแย่งกันเอาหน้า หรือเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น นายกฯ อาจจะเข้าใจอะไรผิดไป พวกเราไม่ถือสา เราจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ส่วนมาตรการที่อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือคืออะไร นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้พูดกันมาตั้งแต่เกิดภัยแล้ง จนมาถึงน้ำท่วม บอกตลอดว่าอยากให้ช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านจากไร่ละ 1,000 กว่าบาท เป็น 2,000 บาท และให้จ่ายทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม เนื่องจากชาวบ้านเดือดร้อนมาก ซึ่งเงินที่ให้ไปจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ได้ทำเป็นข้อเสนอไปยังสภาฯ แล้วว่าการจ่ายเงินชดเชยควรทำให้เสร็จไม่เกินเดือนตุลาคมนี้ เพื่อชาวบ้านจะทำการเกษตรได้ในฤดูนาปรัง ถ้าให้เงินชาวบ้านช้า จะทำการปลูกนาปรังไม่ได้ เนื่องจากไม่มีเงินทุน

ขณะที่เงินบริจาคที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที ต้องผ่านขั้นตอนและกระบวนการตรวจสอบก่อน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องเงินบริจาคถือเป็นส่วนน้อย จริง ๆ มีงบกลางและงบฉุกเฉินอยู่แล้ว ซึ่งระเบียบผ่อนปรนให้ใช้ในสภาวะฉุกเฉินได้


“วันนี้ยังไม่เห็นการใช้งบส่วนนี้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วเพียงพอในการดูแลประชาชน ส่วนงบช่วยเหลือในการชดเชยอาจจะต้องมีระเบียบ โดยต้องลงไปสำรวจพื้นที่เสียหาย ซึ่งอยากให้รีบลงไปสำรวจ วันนี้รัฐทำได้สองอย่าง คือ ใช้งบกลางและงบฉุกเฉินที่สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที ขอร้องว่าให้เอาออกมา เพราะที่นายกฯ บอกฝ่ายค้านไม่มีงบ ก็จริงอยู่ จึงต้องใช้แรงกายแรงใจและทุนทรัพย์ส่วนตัวไปช่วยชาวบ้านเท่าที่ช่วยได้ งบน้อยเราก็มาบ่อยเพื่อมาช่วยชาวบ้านเขา แต่คนที่มีงบเยอะไปไหน งบประมาณอยู่ไหน อยากให้นำงบฟื้นฟูเตรียมการตั้งแต่วันนี้เพื่อนำเข้า ครม. เพราะเมื่อวานนายกฯ มาก็ยังไม่เห็นมีการสั่งการเรื่องนี้ แต่หากสั่งการแล้วก็เป็นเรื่องที่ดี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ด้านนายเกรียง กล่าววถึงกรณีที่มีการสั่งให้รื้อเต้นท์ชั่วคราวของชาวบ้านที่อพยพหนีน้ำท่วมมาที่บริเวณข้างถนน ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องขับรถผ่าน ว่า เรื่องนี้ประชาชนเข้ามาคุยกับตนหลายชุมชน วันนี้ชาวบ้านย้ายจุดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมา 5 ครั้งแล้ว 

“หากรัฐบาลทำงานเป็น ก็จะรู้ว่าน้ำที่จะไหลเข้า จ.อุบลราชธานี มีจำนวนเท่าไหร่ ไม่ใช่ย้ายเขาไปมาถึง 5 ครั้ง และก่อนนายกฯ จะมาลงพื้นที่ ก็มีการสั่งย้ายชาวบ้านจากสะพานออกไปไหนก็ไม่รู้หมด ดีที่ชาวบ้านไม่ยอมไป เพราะเห็นว่าจะเอาไปตั้งที่ค่ายทหาร มทบ.22 เพราะกลัวไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่น ของบริจาค ส่วนที่นายกฯ บอกว่าไม่มีงบนั้น ก็ไม่จริง เพราะมีงบในส่วนของกระทรวงการคลังอยู่ทุกจังหวัด งบอุทกภัยตัวนี้หากใช้หมด ก็จะถูกโอนเข้ามาอัตโนมัติ เงินจำนวน 50 ล้านสามารถนำมาใช้ได้ตลอดเวลา ทุกงบมีระเบียบอยู่แล้วเกี่ยวกับการใช้เร่งด่วนในเวลาฉุกเฉิน ส.ส.เพื่อไทยออกช่วยชาวบ้านมากว่า 20 วันแล้ว ส่วนนายกฯ เพิ่งจะมา เมื่อมาแล้วก็มาสร้างความเดือดร้อนให้ข้าราชการต้องระดมคนไปรับนายกฯ แทนที่จะเอาเวลาไปช่วยชาวบ้าน” นายเกรียง กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า อยากให้ไปประเมินการทำงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาล ทั้งในแง่การบริหารจัดการและอื่น ๆ ถ้าเป็นเราที่เคยทำมา คือ ต้องเร่งตั้งศูนย์อพยพ เพราะรู้ว่าน้ำจะลงจุดไหน ต้องอพยพประชาชนออกมาก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เช่น ไฟดูด การขนข้าวของ ก็จะได้มีเวลาเตรียมตัว

“มาที่ จ.อุบลราชธานี 3 ครั้งแล้ว ศูนย์อพยพในแต่ละจุดแทบจะเรียกศูนย์อพยพไม่ได้ เหมือนชาวบ้านตั้งเต้นท์กันเอง เหมือนใช้ผ้าใบ ผ้าห่ม มาคลุม ซึ่งฝนก็ตกทุกวัน โรคก็เป็น คนก็ป่วย การบริหารจัดการไม่ใช่การใช้งบเยอะ ๆ แต่หมายถึงการต้องบริหารให้ถูกและช่วยประชาชนให้ทันท่วงที” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.ได้ร่วมกันลำเลียงของบริจาค และปล่อยคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดนเริ่มจุดแรกที่สะพานกุดปลาขาว อ.วารินชำราบ ท่วมกลางสายฝนที่ตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]