ฝ่ายค้านอภิปรายเรียกร้องนายกฯแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง

รัฐสภา 18 ก.ย.- “ไพบูลย์” ป้อง นายกฯ มองการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่ใช่การตั้งคำถาม แต่เป็นการตรวจสอบการทำหน้าที่รัฐมนตรี  ด้าน ส.ส.ฝ่ายค้าน ประสานเสียงเรียกร้องนายกฯแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ กรณีการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้อภิปรายถึงการอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้าน ว่า เท่าที่ฟังมาไม่ใช่การตั้งคำถาม แต่เป็นการอภิปรายลักษณะตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐมนตรี และคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะไม่ใช่คำวินิจฉัยที่มีผลผูกพันโดยตรง แต่ก็มีสาระสำคัญที่ต้องรับฟัง โดยระบุว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขตพระราชอำนาจโดยเฉพาะ ไม่สามารถมีฝ่ายใดก้าวล่วงได้ เนื่องจากเป็นไปตามพระบรมราชวินิจฉัยแล้ว ที่ให้นายกรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และพระราชทานพระราชดำรัส ซึ่งเป็นการไว้วางพระทัยแล้ว ดังนั้นญัตติการอภิปรายที่เกิดขึ้นนี้จึงถือเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ

นายไพบูลย์ ยังยกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยไว้ว่า ไม่มีองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีนี้ได้ จึงแสดงความเป็นห่วงฝ่ายค้านที่กำลังอภิปรายตรวจสอบ เข้าข่ายกระทำการโดยไม่มีอำนาจและอาจเป็นเหตุให้ถูกยื่นเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และถอดถอนจากตำแหน่งได้ แม้ว่าฝ่ายค้านจะพยายามยื่นเรื่องตรวจสอบไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. และเรื่องไปถึงศาลฎีกา แต่สุดท้ายเรื่องก็อาจจะกลับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่เปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของตัวเอง ที่ระบุว่าไม่มีองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องนี้ได้ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นหนึ่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ


นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเลิศเรื่องความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ แม้พรรคฝ่ายค้านเป็นส่วนสำคัญในการตรวจสอบการทำงาน แต่ที่ต้องท้วงติงเพราะอยากเห็นการอภิปรายวันนี้เป็นไปในแนวทางที่ควรจะเป็น ไม่มีการกระทำอะไรที่อาจจะสุ่มเสี่ยง

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี ให้กลับไปดำเนินการแก้ปัญหาของการถวายสัตย์ปฏิญาณตนและการกำหนดแหล่งที่มารายได้ของนโยบายให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำได้ด้วยการปรับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ เพื่อนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนอีกครั้งให้ถูกต้อง เพื่อกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือลาออกเพื่อให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แล้วเข้าสู่กระบวนการถวายสัตย์ใหม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะเลือกสิ่งที่ถูกที่สุดสำหรับประชาชน หากยังปล่อยให้เป็นไปในลักษณะนี้ นายกรัฐมนตรีจะไม่ได้รับการยอมรับนับถือ

ขณะที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายยกความเห็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ว่า อย่าเอาพระราชดำรัสตีความเป็นพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับกระบวนการถวายสัตย์ปฏิญาณตน และเรียกร้องไปถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งกระทำการขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง ควรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรักษามาตรฐานจริยธรรมของผู้นำประเทศ


ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อมูลที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงเรื่องที่มาของงบประมาณในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล หลายข้อมูลที่อ้างมาไม่เป็นความจริง เช่น การกู้เงินเนื่องจากใช้งบประมาณสมดุล ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีจำนวนมากเป็นเรื่องที่ดี ทั้งที่ในความเป็นจริงทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัว แต่ไม่ใช่ยาวิเศษ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วรายได้ของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายไม่ใช่มาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ แต่มาจากรายได้จากการลงทุน ตั้งแต่ปี 2557-2558 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เงินไป 2.5 ล้านล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่นโยบายเศรษฐกิจของประเทศไม่ชัดเจน เอาแต่แจกเงิน ทำให้ต่างประเทศไม่มาลงทุนในประเทศ แล้วก็จะมาอ้างว่าคนที่วิจารณ์ไม่รักชาติ ทุกคนรักชาติเหมือนกัน แต่ต้องดูที่วิธีการ เพราะงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายมาจากภาษีประชาชน และยังกู้เงินมาแล้ว ตั้งแต่บริหารประเทศ เป็นจำนวน 2.19 ล้านล้านบาท แต่นายกรัฐมนตรีไม่ยอมแจงว่าแสดงงบประมาณไว้ที่ไหน ขณะที่หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น กำลังซื้อในประเทศหดหาย ต่อให้แจกเงินเท่าไไหร่คนก็ไม่กล้าใช้จ่ายเงินและไม่กล้าลงทุน รวยกระจุก จนกระจาย ตระกูลที่ค้าขายกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในสมัย คสช. รวยขึ้นแต่ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก ตายลง นอกจากนี้ สาเหตุรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ต้องกำหนดให้คณะรัฐมนตรีชี้แจงเพราะท่านทั้งหลายใช้เงินของประชาชน และประชาชนมีหน้าที่ถามผ่านผู้แทนราษฎรที่นั่งอยู่ในรัฐสภา 

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การถวายสัตย์ไม่ครบตามมาตรา 162 ในรัฐธรรมนูญ เหมือนกับ ส.ส.ขาดคุณสมบัติจะเป็น ส.ส. ไม่ได้ เช่นเดียวกับการบวชพระ ถ้ากล่าวคำขานในการขอบวชพระไม่ครบ ก็เป็นพระไม่ได้ เพราะฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไหมให้ไปคิดเอาเอง ถ้าท่านเป็นแค่ทหารที่เกษียณ หรือลุงแก่ ๆ อยู่ที่บ้านก็จะไม่ถามท่าน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า  แต่วันนี้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ผมต้องถามในฐานะผู้แทนราษฎร ว่าทำไมถวายสัตย์ไม่ครบ หรือมีการวางยาท่านหรือไม่ หรือมีเพียงหนึ่งคนที่จะวางยาท่านได้ คือ เป็นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี หรือเลขาธิการนายกรัฐมนตรี วางยาท่าน เขียนข้อความไม่ครบ หรือเป็นเพราะนายกรัฐมนตรีอายุเยอะแล้ว อาจจะเลอะเลือน จึงอ่านไม่ครบ หากรู้ว่าถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะถวายสัตย์ไม่ครบ ตนจะไม่ยกมือสนับสนุนท่านเด็ดขาด และแม้ตนจะเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ก็รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ต่างจากนายกรัฐมนตรี 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า  ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาลโดยไม่ระบุที่มาของ งบประมาณ การจัดซื้อเครื่องบินของสายการบินไทย 38 ลำที่จะเข้า ครม. สัปดาห์หน้า กว่าหนึ่ง 1.56 ล้านบาท แต่ทำไมไม่ชี้แจงในการแถลงนโยบาย ทุกวันนี้ประเทศมีหนี้สาธารณะจำนวนมาก หากไม่ทำวงเงินงบประมาณขาดดุลก็จะไม่มีเงินมาจัดซื้อจัดจ้าง และกังวลว่า ถ้าในอนาคตขาดทุนขึ้นก็คงเหมือนนโยบายจำนำข้าว หากนำทรัพย์สินของ ครม. มารวมกันทั้งหมดก็คงไม่เพียงพอกับวงเงินที่จะอนุมัติในครั้งนี้ และสิ่งสุดท้ายคือฝากให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]