กทม.15 ก.ย.-เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 20 ก.ย.ของทุกปี สสส.จัดกิจกรรม ThaiHealth Youth Solutions ตอน “พลังของเด็กชายขอบ” หลังพบว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงเยาวชนไทยกลุ่มเปราะบาง 1.3 ล้านคน หลุดจากระบบการศึกษา-ไร้งานทำ เสี่ยงซึมเศร้าสูง
นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงสถานการณ์สุขภาวะเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นในปัจจุบันที่น่าเป็นห่วง คือกรณีปัญหาสุขภาพจิตของวัยรุ่น ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตพบว่าวัยรุ่นไทยอายุ 10–19 ปี มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูงร้อยละ 44 หรือมีประมาณ 3 ล้านกว่าคนจากวัยรุ่นทั้งหมดประมาณ 8 ล้านคน และมีอัตราป่วยเป็นโรคนี้ร้อยละ18 นอกจากนี้ประเด็นการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน และการติดสารเสพติด ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงลำดับต้นๆ ของการสูญเสียปีสุขภาวะของวัยรุ่นไทยอีกด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนชายขอบ มีภาวะเปราะบาง ทั้งทางสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจ มีโอกาสจะเผชิญปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาวะ ได้มากกว่าเด็กและเยาวชนในครอบครัวที่มีความพร้อม อยู่ในสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจที่ดี
น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ในปี 2017 พบว่าประเทศไทยมีประชากรอายุ 15-24 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา ไม่ได้อยู่ในระบบแรงงาน ราวๆ1.3 ล้านคนในจำนวนนี้เกือบ 8 แสนคนเป็นผู้หญิง ขณะที่องค์การยูนิเซฟระบุว่า กลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 15-17ปี เป็นกลุ่มที่ประสบกับความยากจนหลายมิติในระดับที่รุนแรงที่สุด กว่าร้อยละ 51.06เป็นวัยที่หลุดจากระบบการศึกษา และเมื่อจัดระดับความรุนแรงของค่าความยากจนหลายมิติของกลุ่มเด็ก ก็พบว่า 5 จังหวัดแรกที่มีปัญหาสูงสุดคือปัตตานี, กาฬสินธุ์, นครพนม, ตาก และ นราธิวาส
สำหรับการกิจกรรมครั้งนี้เพื่อต้องการสร้างพื้นที่สื่อสารให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็กชายขอบ ซึ่งเป็นเยาวชนกลุ่มเปราะบางและอยู่ชายขอบของสังคม เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพซ่อนอยู่ในตัว มีความเข้มแข็งอยู่ภายใน
ได้มีโอกาสพูดคุยสะท้อนความคิดไปยังสาธารณะ ในประเด็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ยังเป็นปัญหาและต้องการให้สังคมมีส่วนร่วมช่วยเหลือดูแล โดยเลือกจากกลุ่มเยาวชนชายขอบที่มีการรวมกลุ่มดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง 6 กลุ่ม ได้แก่ สหทัยมูลนิธิจากนครศรีธรรมราช ,สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้, มูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย , กลุ่มพลังโจ๋จากศูนย์สร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ ,กลุ่มเยาวชนจากบ้านพิราบขาวชายแดนใต้ , กลุ่มเยาวชนรักษ์ไทยพาวเวอร์ทีนจากเชียงใหม่ และได้เชิญสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยมาร่วมเรียนรู้และสร้างความร่วมมือกับเพื่อนๆ กลุ่มชายขอบในการผลักดันให้เกิดนโยบายใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนชายขอบในอนาคต
นายณัฐพงษ์ ราหุรักษ์ อายุ 22 ปี ตัวแทนเยาวชนจากกลุ่มมูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย กล่าวว่า การร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เป็นเวทีช่วยเปิดพื้นที่ให้พวกเราได้แสดงออกถึงสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่เคยมีใครฟัง ซึ่งตนเป็นกลุ่มเยาวชนที่เคยพลาดต้องคดี ทุกคนมองเป็นคนขี้คุกแม้จะออกมาจากสถานพินิจแล้ว แต่เมื่อมาอยู่ในสังคมที่บอกว่าให้โอกาส กลับไม่เคยได้รับโอกาสจริงๆ ทุกครั้งสายตาคนในชุมชนหรือในสังคมมองมา คือสายตาที่ตีตรา จริงๆ แค่อยากได้ที่ยืนในสังคม ไม่เหยียดหยาม ยอมรับและให้โอกาสที่แท้จริง ทั้งการได้กลับเข้าไปในระบบการศึกษาหรือการทำงาน เพื่อให้สามารถที่จะพึ่งพิงดูแลตัวเองและช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันได้. –สำนักข่าวไทย