ศานิตย์ยันหลักฐานแน่นเอาผิด4โจ๋รุมโทรมสาวดับคาโรงแรม

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- ศานิตย์ ยันมีหลักฐานมัดแน่นกับ 4 วัยรุ่นมรุมข่มขืนนักเรียนพาณิชย์ดับคาโรงแรมได้ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงรอรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน


พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนักเรียนพาณิชยการแห่งหนึ่ง ถูก 4 วัยรุ่นชายข่มขืนจนเสียชีวิตภายในโรงแรมย่านบางซื่อว่า  ผกก. สน.บางซื่อได้ไปร่วมงานฌาปนกิจนและได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต ว่าทางตำรวจให้ความสำคัญในการดำเนินคดี เพราะเป็นคดีที่สะเทือนใจ ซึ่งล่าสุดได้สั่งการให้ไปตรวจสอบ และพบว่า มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง และเป็นหลักฐานสำคัญที่จะทำให้คดีนี้สมบูรณ์ ซึ่งวันนี้จะเข้าไปสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาในเรือนจำเพิ่มเติม พร้อมเร่งสอบสวนในประเด็นว่าผู้ตายเสพยาเองหรือถูกกลุ่มผู้ต้องหาบังคับให้เสพ ซึ่งเบื้องต้นมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่าขณะนั้นผู้ตายอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้  รวมทั้งผู้ต้องหายอมรับว่าทำการล่วงละเมิดทางเพศจริง  ซึ่งทางตำรวจต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดก่อน จึงจะสามารถสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตได้ รวมทั้งยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด

ส่วนจะดำเนินการเอาผิดกับทางโรงแรมที่ให้บริการด้วยหรือไม่นั้นเบื้องต้นได้สั่งการไปแล้ว ซึ่งผู้ใดให้การช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวก ให้ผู้อื่นกระทำความผิด  ถือว่าเป็นผู้สนับสนุน รับโทษ ๒ใน ๓ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตร า ๘๖ ซึ่งจะมีการ เรียกพนักงานโรงแรม เข้ามาให้ปากคำ หากพบว่ามีความผิดก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน   ทั้งนี้ได้กำชับ กับทางโรงแรมให้ตรวจความเรียบร้อยและคอยสังเกตุ หากพบบุคคลหรือการกระทำต้องสงสัยให้คิดว่าอาจจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ซึ่งหากเกิดเหตุทางโรงแรมจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จึงส่งหนังสือแจ้งเตือนไปทุกโรงแรม ว่าเกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที


ตำรวจเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีภรรยานายจาตุรนต์ ฉายแสง ช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ถูกดำเนินคดี พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ให้ดำเนินคดีนางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยาของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมาในข้อหาช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ ซึ่งคดีดังกล่าวเหมือนคดีทั่วไปที่ต้องตรวจสอบดูว่าใครทำอะไร ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัว แต่เรื่องดังกล่าวบังเอิญเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ซึ่งพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ส่วนจะเรียกนางจิราภรณ์เข้าให้ปากคำหรือไม่นั้น  เจ้าหน้าที่กำลังประชุมและให้รายงานผลการประชุมมาที่ตน โดยต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าผิดกฏหมายหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ ยืนยันการทำคดีของตนไม่คำนึงว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาเป็นใคร ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฏหมาย และกรณีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหญ่แค่ไปคาบเกี่ยวกับนักการเมืองเท่านั้น พร้อมมองว่าประเทศกำลังเดินหน้าต้องให้ความร่วมมือกัน.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง