เกษตรฯ หนุนเลี้ยงโคเนื้อสร้างรายได้

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เกษตรฯ เดินหน้าโครงการโคเนื้อ-โคขุนล้านตัวส่งตลาดจีน คาดสร้างรายได้เกษตรกรกว่า 40,000 บาทต่อครัวเรือน ยันใช้ลูกโคในประเทศเป็นหลัก เตรียมเดินหน้ารุ่นแรกเดือนตุลาคมทันทีหลังน้ำลด 


กลุ่มเกษตรกรกว่า 500  คน ประสบอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่  ขอนแก่น สกลนคร อุบลราชธานี  ศรีสะเกษ และกลุ่มเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ-โคขุน ได้ยื่นหนังสือขอให้กระทรวงเกษตรฯ ช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน และมีความประสงค์เข้าร่วมโครงการดังกล่าว 

นายประพัฒน์ โพธสุธน และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับหนังสือและชี้แจงรายละเอียดโครงการนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลด พร้อมรับปากจะเดินหน้าแก้ปัญหาด่วนที่สุด


นายประพัฒน์  เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงเกษตรฯ วางแผนสร้างรายได้เกษตรกร โดยมีโครงการเร่งด่วน 4 โครงการ คือ โครงการส่งเสริมการปลูกถั่วเขียวหลังน้ำลด โดยมีผู้แสดงความจำนงรับซื้อจากเกษตรกรกว่า 6 ตัน ซึ่งประกันราคารับซื้อกิโลกรัมละ 30 บาท โดยเกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการ 50,000 ราย โครงการส่งเสริมการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมากกว่า 200,000 ตัน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยมีผู้ร่วมโครงการ 50,000 ราย โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพด 1 ไร่ โดยประกันราคากิโลกรัมละ 8 บาท เบื้องต้นมีเอกชนแสดงความจำนงรับซื้อข้าวโพดจำนวนดังกล่าวแล้ว ภาครัฐจะแจกเมล็ดพันธุ์ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยถั่วเขียว 5  กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวโพด 3.5 กิโลกรัมต่อไร่  ซึ่งจะขอใช้งบประมาณจากรัฐบาลจัดซื้อเมล็ดพันธ์ข้าวโพดและเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวรวม 710 ล้านบาท 

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังมีแนวคิดส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและโคขุน 1 ล้านตัว เพื่อส่งออกไปจีน เบื้องต้นประสานงานกับกลุ่มเอกชนที่เดินทางเข้าพบช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เอกชนจีนประสงค์จะขอซื้อโคเนื้อ และโคขุนจากประเทศไทยจำนวนมาก โดยต้องการโคเนื้อและโคขุนที่มีน้ำหนัก 420 กิโลกรัม วันละกว่า 2,500 ตัว จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ไปดูตลาดว่าสามารถส่งออกได้จริงหรือไม่ ซึ่งพบว่าเริ่มสร้างโรงเชือดที่เป็นมาตรฐานจากกลุ่มเอกชนจีนที่ประเทศลาวขณะนี้ใกล้เสร็จ จากนั้นสามารถส่งออกได้ทันที เริ่มดำเนินการตามโครงการจะเลี้ยงโคขุน-โคเนื้อที่เป็นลูกโคน้ำหนัก 250 กิโลกรัมให้ได้น้ำหนัก 450 กิโลกรัม ภายใน 120 วัน โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 1 ราย สามารถเลี้ยงโคได้ 5 ตัว ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้หักค่าใช้จ่ายตัวละไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท โครงการนี้สามารถรองรับเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย ทั้งนี้ จะสนับสนุนแหล่งเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพื่อซื้อลูกโคตัวละ 24,000 บาท น้ำหนักลูกโคต้องไม่ต่ำกว่า  250 กิโลกรัม เพื่อนำไปเลี้ยงให้ได้น้ำหนัก450 กิโลกรัม ก่อนขายให้โรงเชือดของจีนต่อไป โดยให้เกษตรกรเลือกลูกโคเองและใช้โคในประเทศเป็นหลัก ซึ่ง ธ.ก.ส.จะเป็นผู้จ่ายแทนเกษตรกรทั้งหมดโดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 

นอกจากนี้ ยังมีการทำประกันการตายของลูกโคในโครงการทั้งหมดตัวละ 400 บาท หากตายระหว่างการเลี้ยง เกษตรกรไม่ต้องรับภาระหนี้สิน โดยจะของบประมาณจากรัฐบาลในการทำประกันโคในโครงการทั้งหมด ขณะเดียวกันยังมีการส่งเสริมการผลิตอาหารให้โคขุนในโครงการ ซึ่งเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีการรวมกลุ่มกัน ทางภาครัฐจะสนับสนุนในการจัดซื้อเครื่องผสมอาหารสัตว์ให้เป็นไปตามสูตรของกรมปศุสัตว์ โดยมีต้นทุนอาหารสัตว์กิโลกกรัมละ 4 บาท  เครื่องผสมอาหารสัตว์เครื่องละ 500,000 บาท ซึ่งภาครัฐจะออกให้ร้อยละ 70  กลุ่มเกษตรกรออกอีกร้อยละ 30 เพื่อให้เกษตรกรรู้สึกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของทำให้โคในโครงการโตเร็วให้เพิ่มขึ้นวันละกว่า 1.5 กิโลกรัม ภายใน 120 วัน จะสามารถส่งให้กับโรงเชือดได้ทันที โครงการทั้งหมดของการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ-โคขุน โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเสนอของบ กลางเพียง 3,720 ล้านบาท และกรมน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้ามาเจาะบ่อบาดาล เพื่อปลูกหญ้าเลี้ยงโคขุนในโครงการ โดยบาดาล 1 บ่อสามารถปลูกหญ้าได้กว่า 100 ไร่ คาดว่า อาหารจะเพียงพอต่อการเลี้ยงโคในโครงการทั้งหมด เกษตรกรที่่เข้าร่วมโครงการจะได้กำไรจากการเลี้ยงโคครั้งนี้ไม่ต่ำกว่าตัวละ 8,000 บาท 


“โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและโคขุนครั้งนี้ขอใช้งบกลางน้อยมากได้สรุปรายละเอียดโครงการนำเสนอ รมว. เกษตรฯ แล้ว โดย รมว. เกษตรฯ ยินดีที่จะนำเสนอ ครม.พิจารณา เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร คาดว่าจะเริ่มเลี้ยงเดือนตุลาคมนี้แน่นอนทันทีหลังน้ำลด” นายประพัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย